ความเข้าใจเกี่ยวกับการจำสูตรและชาดกในพระพุทธศาสนา มังคลัตถทีปนีแปล เล่ม 4 หน้า 159
หน้าที่ 159 / 239

สรุปเนื้อหา

เอกสารนี้กล่าวถึงการจำสูตรและชาดกในพระพุทธศาสนา โดยมีการนำเสนอความสำคัญของการทรงจำในแบบที่ถูกต้อง การท่องจำและการสามารถปฏิบัติได้ทันทีเมื่อมีการกล่าวถึงสูตรหรือชาดก รวมถึงคำพูดจากพระอรรถฺถถารย์ที่เน้นถึงความสำคัญของการฝึกฝนในการจำและการแสดงความรู้ โดยเฉพาะ เมื่อถูกท้าทายให้กล่าวสูตรหรือชาดกต่าง ๆ ซึ่งบ่งบอกถึงความสำคัญของวิธีการเรียนรู้และการปฏิบัติในพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์

หัวข้อประเด็น

-การจำสูตรและชาดก
-ความสำคัญของการท่องจำ
-คำอธิบายจากพระอรรถฺถถารย์
-การแสดงความรู้ในพระพุทธศาสนา
-การฝึกฝนทางวาจา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - มังคลัตถีที่เป็นเปล เล่ม ๔ หน้า 159 เมี่ยโสดประสาทลงแล้ว กำหนดด้วยดี ด้วยโสดคืออุจฺจาเหตุนนั้น พระอรรถฺถถารย์ จึงกล่าวว่า ปลากโตสติ เป็นต้น จริงอยู่ พระ พุทธพจน์อนิทนบูญปรัชญเปลี่ยนแล้ว ทรงจำไว้ ชาวง ไม่ลืมดาล (แต่) ชื่อว่า กำหนดไว้ได้ดีงามไม่ใช่ ภิกษุนนั้น เมื่อใคร ๆ พูดว่า 'ท่านจงกล่าวสูตรหรือชาดกโน่น' ดังนี้ ย่อมกล่าวว่า 'เราท่องแล้ว เทียบเคียงแล้ว ซักซ้อมแล้ว จำรู้' (แต่) สำหรับบางรูป ทรงจำ ไว้ได้ ชำเรอง เป็นเช่นกับวังโสด เมื่อใคร ๆ กล่าวว่าท่าน จงกล่าวสูตรหรือชาดกโน่น ย่อยมักกล่าวสูตรหรือชาดกนั้นได้ ทันที พระอรรถฺถถารย์ หมายเอาคำคำว่ามั้น จึงกล่าวคำนี้ ว่า ถานุโสตนฺ วุฑฺฎูปิตฺตน ฯ นี้นี่ ว่า วจนะชติ ความว่า ทำให้ลงปาก จำทรงได้ ด้วยสามารถเบื้องต้นและเบื้องปลายแห่ง บัลลิและอนุสนิธิ สองว่า วจาส ปริจิต ความว่า ท่องด้วยปาก ด้วยสามารถแห่งสุดตกะ วัคกะละ ปืนฉากกละอธินาว่ากำหนดโดยนัยว่า ล่วงไปแล้ว ๑๐ สูตร ล่วงไปแล้ว ๑๐ วรรค ดังนี้เป็นต้น แล้วท่องด้วยปาก ในว่านว่า วจา ปริจิต นี้ พระ ผู้มีพระภาค ทรงประสงค์จะอบรมทางวาจา ด้วยสามารถแห่งวรรค เป็นต้น แต่หาได้ทรงพระประสงค์จะอบรมทางวาจา แห่งส่วนหนึ่ง ของสูตร และเพียงสูตรมิ่ กล่าววา มนญาณปฏจิต ความว่า เพ่ง คือคิด โดยส่วน ซึ่งว่าพลังใจ เมื่ออิทธิจิต คิดอยู่ด้วยใจ ซึ่ง พระพุทธพระนี้ท่านท่องแล้วด้วยวาจา พระพุทธองค์ ย่อมปรากฏใน ที่นั่น ๆ คือ ปรากฏแจ้ง จุดรูป ปรากฏแจ้งแก่บุคคลผู้นั้น
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More