ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - มิ่งคลาดที่ปิ่นสเปล เล่ม ๔ หน้า ๑๕๓
มีในที่ใกล้ เพราะไม่มีโอกาสตั้งลง สองกว่า ตาม ปีติ ความว่า
ชื่อว่า ไม่ละปีติอันเกิดขึ้นแล้ว ด้วยสามารถการฟังธรรมเป็นที่สบาย
โดยกำหนดอาการอันเกิดขึ้นแห่งปีตินั้นในคราวนั้น เพราะในปีนั้น
เกิดขึ้นบ่อย ๆ เหตุนี้ พระอรรถกาถาจึงกล่าวว่า ปัญญา นิ้วเทน
วิชุมภูติว ดังนี้ สองว่า อทิ สนฺธาย ความว่า ธรรมมีปีติ
นั้น ไม่เสื่อมอยู่ตลอดวันมีประมาณเท่าใด เป็นธรรมชาติได้ปัจจัยแล้ว
ย่อมนำคุณวิบากมาตลอดวันมีประมาณเท่านั้น พระอรรถกาถาจึง
หมายเอือน้อมความนี้ จึงกล่าวว่า ปัญญา นิ้วเทน ตสฺมิ สมเย
น โหนตุ เป็นต้น คำว่า ปีติปุโปรมชุปปุจฉฯ เป็น ๆ นสนฺสนติ
ความว่า ย่อมไม่ปรากฏ เพราะไม่เป็นไป ด้วยสามารถปัจจัยอัน
เป็นสำคัญ แม้โพชงค์ที่เกิดขึ้นด้วยสามารถปัจจัยอันส่วนเสมอกัน
พระผู้พระภาค ย่อมตรัสว่า "ในสมัยนั้น ย่อมถึงความเจริญเต็มที่
เพราะเป็นไปด้วยสามารถถึงกันให้สำเร็จ."
[ อานิสงส์อาทิธรรม ]
[๗๘๐] การฟังธรรม ย่อมเป็นเหตุให้บรรลุคาถานิรวรณ์ได้
ด้วยประกฤตนี้ ได้ยว่า พรหมนี้ประมาณ ๕๐๐ คน บวชแล้ว
ย่อมไม่ไปเพื่อฟังธรรม ด้วยคำว่า " พระสัมมนาสมุทธาเมื่อครัส
ด้วยโลภ จงนะ วิภติ บาท และพยัญชนะเป็นต้น จุตรเสสังที่เราช
รู้แล้วนั่น ที่พวกเราไม่รู้ พระองค์จักตรัสอะไรได้?"
พระศาสดา ทรงลดปะพฤติเดนตู่นั้น รับส่งให้เรียกพวกเธอ
มาแล้ว เมื่อทรงแสดงว่า " เพราะเหตุไร เธอทั้งหลายจึงทำอย่าง