ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค- มังคลติดาถิ่นนี้เป็นแปล เล่ม ๔ หน้า ๒๒๕
[๔๕๒]
ภูมิใจชมคลังยูว่า " วาจาชอบ งานชอบ การเลี้ยงชีวิตชอบ ที่นับเนื่องในมรรครผล และธรรมทั้งหลายมี
เตนาเป็นต้น ซึ่งอื่นจากสัมมาอาเป็นต้นนั้น อันถึงความขัดแกล้
( กิเลส ) ชื่อว่า โลกุตรศิลของพระวินายสพ. ส่วนโลกียศิษ สันเนื่อง
ในอภัยกุณฝ่ายกิริยา โลกียศิลนั้น ชื่อว่า จาริตศิล. กิวาริจิตศิล
ไม่มีการเกิดขึ้นโดยแท้ เพราะไม่มีความเป็นไปด้วยสามารถการงดเว้น
อารมณ์บางพากกล่าวว่า ศิลที่เป็นไปในส่วนนี้องค์ต้น ชื่อว่า
โลกิศิล. การเห็นลักษณะเฉพาะตัวแห่งธรรมทั้งหลาย อัน
ปัจจัยปรุงแต่ง ด้วยตรีรณปริญญา ( ปัญญาเครื่องกำหนดครูด้วยการ
พิจารณา ) และการเห็นสามัญลักษณะมีความไม่เที่ยงเป็นต้น ด้วยตรีรณปริญญา ชื่อว่าการเห็นลักษณะฯ. จริงอยู่บุคคลเมื่อละอยู่ ชื่อ
ว่าจ่อมเห็นลักษณะเหล่านั้น โดยอาการคือความเป็นธรรมอันบุคคล
พิงจะ. การเห็นลักษณะอันแท้จริงแห่งพระนิพพาน ด้วยมรรคริจ
และผลจิตดีดี การเนินธรรมที่ควรเว้นว่างด้วยมาน ด้วยมานจิตดีดี
การเห็นปฏิเวธสันเป็นดัง ด้วยอาญญาณจิตดีดี ก็ชื่อว่า อาญทัสสนะ.
เหมือนกัน. พระผู้พระภาค. ทรงพระประสงค์เอาจักทัสสนะ
เพราะพระองค์ทรงถือเอาการฟังและการเข้าไปนั่งใกล้ไว้งานหน้า. บท
ว่า ปัญหาาปฏิปสน. ได้แก่ การเข้าไปนั่งใกล้ด้วยอำนาจการถาม
ปัญหา เพราะการถามทั้งสิ้นเป็นกิจอาญาเข้าไปหนสุดเดือน
แล้ว ( สำเร็จด้วยการเข้าไปหา). เพื่อจะแสดงว่า 'การรรลังก์คุณ
มีศิลเป็นต้นตามที่ตนได้ฟังมาแล้ว โดยการสำคัญก็คือไม่ต่างจาก