ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค ๙ มักคลิกท่านนี้เป็นเปล่า เล่ม ๔ หน้า ๑๐๔
[๗๔๑] กิทธรรมาคิภูนู้สั่นโดน ย่อมเป็นผู้ปะพฤติดั่งนอนเรีบ
เหตุนั้น ในอรรถกถาสมบูรณ์สูตรเป็นต้น ท่านจึงกล่าวไว้ว่า "ภิกษุผู
สันโดษนั้น บริโภคสนสนที่บุรฺษะท่าแล้ว ๆ คือราวปา โคลนไม้
ชายป่า ยืนคนเดียว นั่งคนเดียว อยู่คนเดียวไม่มีเพื่อนในอาราม
ทั้งปวง ดูลูกศรที่พรันไปจากสาย และดูช้างชัมมัน\(ู\)หลังไปจากโลง
ฉะนั้น ย่อมถึงความเป็นผู้นอนเรีบ ที่ท่านพรรณาไว้ของนี้ว่า
" ภิกษุผู้นอนโด ย่อมเป็นผู้ยึดเป็นสุขในกิจ
ทั้ง ๔ และเป็นผู้ไม่กระทั่ง สันโดษ
ด้วยปัจจัยอนุนี้ (ตามมติความได้) ครองงำ -------
เลี่ยงอันตรายทั้งหลาย ไม่หวาดเสียว เป็น
ผู้เดียว เช่นกับนอนเรีบ พึงอยู่ร้ายไป"
ถามว่า' ใครเล่าพรรณนาไว้?' แล้วว่า พระปัจเจกสัมพุทธ
องค์หนึ่ง พรรณนาไว้
ได้อธิษฐานพระปัจเจกองค์นั้นเป็นเจ้ากรุงพาราณสี
ประทับนั่งรบชนิดลัก ยังวิบาเสน่าในรื่อสุขแล้ว บรรลุโพธิญาณ
ได้ทรงภายฎอทานาคาว่า จตุทุภโล เป็นอาทิตย์ คานันมาแล้วใน
ขค้กิสนาสุทโธ ในปฐมวารสุตจบเนินบาด
[๗๔๒] อรรถกถาข้อวิเคราะห์สูตรว่า " บรรดาบทเหล่านั้น
บรรว่า จตุทุภโล ควมา ว่า ผู้ปิดอุทามาสายในทิพพัง ๔ พรหมวิหาร
ภาวนา อันกิจนั่นแผ่ไปแล้ว โดยย่อว่า เอก ทิส ศรีติวา วิรติ
๑. สุวิ.๑/๒๕๓. ๒. สุ.สุ.๒/๒๓๓. ๓. ปรมฤ๎โชฎก สุตตนิปาดฉบับหน้า ๑/๑๐๖.