ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค 5 - มังคลัตถิถิปริปาเล เล่ม 4 - หน้า 158
อันใดฯ ข้อว่า ทนฺโช ภิกขเว สุปปาโณ ความว่า ความเกิดขึ้นแห่งสติเป็นเครื่องระลึกถึงพระพุทธเจ้านั้นเอง ช้า คือ หนัก. ข้อว่า อถ โส สติ ขิปปาเยวิสสานามิโก ความว่า ย่อมะถึงพระนิพพาน. ข้อว่า อทิเมน เอโตวสุปปฏิปฏิต ความว่า พระชินาสพ ผู้สมบูรณ์ด้วยกุศล ถึงความเป็นผู้มีความชำนาญแห่งจิต. วา ศัพท์ในคำว่า อย่า วา โส ธมฺมวนิโย นี้ มิวิภาวะเป็นอธรรมน, กล่าวว่า ยุคา คือในธรรมวินัยได. สองวกว่า พราหมจิยา อธิ ความว่า เราอยู่ประพฤติพรหมจรรย์. พระผู้มีพระภาคตรัสว่า พรหมจรรย ออริ นี้ ด้วยสามารถกระลิกถึงพระพุทธพจน์ว่า พระพุทธจานนี้ อันเรานี้ เรียนแล้วในก่อน. บทว่า เทวตมฺโม ความว่า เทพฤตูผู้เป็นธรรมกัลกอัญหนึ่ง เหมือนปัญจาลสันเททพุทธ, ท้าวหัตถกามา-พรหม และเหมือนท้าวถวุมกุมารมหาพรหม. คำว่า โอปปาติโก โอปปติโก ความว่า เทพพฤตูเกิดก่อน ย่อมให้เทพบุตรผู้เกิดภายหลังระลึกได้. ด้วยคำว่า อหปฺสิโกพานา นี้ พระผู้มีพระภาคออ่มทรงแสดงความที่สหายทั้ง 2 นั้น ทำความอุปถัมภ์กันมานานนาน. บทว่า สมา คจฉเยยู่ ความว่า พึงมาพานหน้าในที่ศาลา หรือที่โคนต้นไม้. ข้อว่า เอว สายหยู ความว่า สายผู้ซึ่งอยู่ในศาลาหรือที่โคนต้นไม้. ข้อว่า เอว วาทียุ ความว่า สายผู้นั่งอยู่ในศาลาหรืที่โคนต้นไม้. พระว่่า สายผู้ซึ่งอยู่ในศาลาหรือที่โคนต้นไม้ พิกาดถล่าวกะสายผู้มาก่อนหลังอย่างนั่น."