ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโปลฺ - พระอธิการปัททิยะ กาเปล ภาค ๙ - หน้า 91
แล้วว่าสว่า “กิษฺฐ์ทั้งหลาย ธรรมวาคาภิญญู พึ่งเป็นผู้อื่นดีด้วยอาก
ของตนเท่านั้น การปรากฎนาของผู้อื่น ไม่สมควร เพราะบรรลฺ
ณา วิปัสสนา มรรค และผลทั้งหลาย แม้ธรรมสักอย่างหนึ่งย่อม
ไม่เกิดขึ้นแก่ผู้อื่นปรากฏนาของผู้อื่น แต่คุณชาตทั้งหลายมีนาม
เป็นต้น ย่อมเกิดขึ้นแก่ผู้อื่นดีด้วยอากของตนเท่านั้น” ดังนี้แล้ว
เมื่อจะทรงแสดงธรรม ได้ทรงภาติพระคาถานี้ว่า:-
“กิษฺฐ์ไม่ควรดูหมิ่นลาภของตน, ไม่ควรเที่ยว
ปรารถนาลาภของผู้อื่น, กิษฺฐ์เมื่อปรารถนาลาภ
ของผู้อื่น ย่อมไม่ประสบสม๎ pi; ถ้ากิษฺฐ์
แม้เป็นผู้มีลาภน้อย ก็ไม่ดูมั่นลาภาของตน,
เทพพาห้าทั้งหลาย ย่อมสรรเสริญกิษฺฐ์นั่นแหละ (ว่า)
ผู้มืออาชีพหมดจด ไม่เกียจคร้าน.”
[แก้อรรถ]
บรรดาภาพเหล่านั้น นา ว่า สตฺตา ได้แก่ ลาภที่เกิดขึ้นแก่คน,
จริงอยู่ กิษฺฐ์ผู้นั้นการย่อมไปมาลำคับตรก เลี้ยงชีพของผู้ว้าร
แสวงหาอันไม่สมควร ชื่อว่า ดูหมิ่น คือ ดูแลน ได้แก่ รังเกียจ
ลาภของตน; เพราะเหตุนี้น่ะ กิษฺฐ์ไม่ควรดูหมิ่นลาภของตน ด้วยการ
ไม่ทำอย่างนั้น.
สองบทว่า อนุเญสะ ปีโย คำว่า ไม่ควรเที่ยวปรารถน
ลาภของคนเหล่าอื่น.