ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - พระมหามัทธิทูรฉกฉลภาค ๘ - หน้าที่ 261
ได้นิว่า นั่นเป็นผลแห่งรัตนะที่เขาโปรลงทำให้เป็นทรายในบริเวณพระคันภิธิ
[ พระเจ้านิมิสสารมีพระประสงค์จะชมปราสาท ]
เมื่อมหาน ถือเอาอาวรณ์ และทรัพย์ตามความปรารถนา ไปอยู่อย่างนั้น พระเจ้าพิมพิสาร มีพระประสงค์จะทอดพระเนตรปราสาทของโสดิกเศรษฐีนี้นี่บัง เมื่อมหามาอยู่ จึงไม่ได้โอกาสแล้ว
ในกาลต่อมา เมือพวกมนุษย์น้อยลง เพราะถือวัตถาการ
และทรัพย์ตามความปรารถนาไปแล้ว พระราชา จึงราศึบัดดาบของ
โศกิตะว่า "ฉันมีความประสงค์จะชมปราสาทของบุตรของท่าน." บิดาของโศกิตะนั้น กราบทูลว่า "ดีละ สมติทีพ" แล้วไปบอกแก่บุตรว่า "พระราชมีพระประสงค์จะทอดพระเนตรปราสาทของเจ้า," เขาว่า "ดีละ คุณพ่อ ขอพระองค์สิดิวาดิ."
พระราชา ได้เสด็จไปในทันนั้นพร้อมด้วยข้าราชบริพารเป็นอันมาก. ท่าสู้ผู้ต่อความทักทายกายมิได้ ก็ถวายมือแต่พระราชา พระราช ทรงละอาย ด้วยทรงสำรวมว่า "ภรรยาของเศรษฐี" จึงไม่ทรงวางพระหัตถ์ที่แขนของนาง. พระราช ทรงสำคัญจะสิ่ม ที่ชุมประตูที่ทั้งหลายว่า "ภรรยาของเศรษฐี" อย่างนั้น จึงไม่ทรงวางพระหัตถี่บนแขนของทาสี่เหล่านั่น
โศกิตะเศรษฐี มาถ้อนรับพระราชาวงบังคมแล้ว อยู่เบื้องพระปญญาคม์ ก็ราบทูลว่า "บ้านฉันสมติทีพ ขออัญเชิญไปบ้างหน้าเถิด" แผ่นดินที่ประดับด้วยแก้วมณี ย่อมปรากฏแก่พระ