ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - พระฐีมาทุถวถูกแปล ภาค ๙ หน้าที่ 280
ขอพระองค์ทรงลาดผ้าสัฏฐ แล้วได้ท่านั่วทั้งหลายให้ตรง. แหวนแม้
ทั้ง ๒๐ วง หลุดออกแล้ว
คำดำเนินนั้น เศรษฐี กล่าวท่านว่า "บ้านเสมมิตเทพ
ใคร ๆ ไม่สามารถเพื่อถือเอาทรัพย์สมบัตินั้นเป็นของข้าพระองค์ด้วย
อาการอย่างนั้นได้ เพราะข้าพระองค์ไม่ปรารถนา" ดังนี้แล้ว เกิด
ลดใจเพราะพระกรียของพระราชา จึงกรมทูลว่า "บ้านเสมมิตเทพ
ขอพระองค์จงทรงอนุญาตเพื่อการบวงสขั้นต่ำพระองค์." ท่านอธง
ดีกว่า "เมื่อเศรษฐีนี้บ้วชแล้ว, เรายกถือเอาปราสาทได้สะดวก"
จิงตรัสว่า "จงบวงเริ่ม" ด้วยพระคำสั่งเดียวเท่านั้น. เศรษฐีนี้
บวงในสำนักพระศาสดาแล้ว ต่อมาก็ไม่นานนัก ก็ได้บรรลุพระอรหัต
มีชื่อว่า พระโชติเภรกะ
ในขณะท่านบรรลุพระอรหัตแล้วนั้นและ สมดังนั้นแม้ทั้งหลาย
ก็อ็นครธานไป. พวกเทพดา ก็นำภารของเศรษฐีนี้ ชื่อสุดถายะ
แม่นั้นไปสู่ตรุกฉรูกวีปันแล.
[พวกภิภูเข้าใจว่าพระเฑาะว์อวดอุดมสมบูรณ์]
ต่อมาวันหนึ่ง ภิกษุทั้งหลาย เรียกพระโอโกฐเฑาะว์นั่นมาแล้ว
ถามว่า "โอโกฐผู้อายุ กี่สิบหาในปราสาทหรือในหญิงนั้นของท่านยัง
มีอยู่หรือ? เมื่อท่านนอบว่า "ไม่มี ผู้มีอายุทั้งหลาย" จึงกรมทูล
แต่พระศาสดาว่า "พระเจ้าข้า พระโชติเภรกะนี้ กล่าวไม่จริง พยากรณ์
พระอรหัตผล."
พระศาสดา ตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย บุตรของเราไม่มัดหาใน