ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - พระ ธัมมปทัฏฐกถา แปลภาค ๔ - หน้าที่ 103
คราวนั้น มหาอุสิกา กล่าวะพระโอษฐนะนั่นว่า "พ่อ เพราะคุณแสดงธรรมเฉพาะพระพักตร์ของพระศาสดาได้แล้ว, คุณก็อาจแสดง มัชฌิมได้เหมือนกัน. ในวันที่ชั่วโมง โยมจัดให้ทำการฟังธรรมกัน แล้วก็ฟังธรรมของคุณ พระโอษฐะรับบันฑิตแล้ว. อุสิกา คิดว่า "เราวายาทานแก่กิเลสสูง ทำการบูชาแล้วก็ฟังธรรมกาถของเรา" จึงได้ตั้งให้หญิงทาสคนเดียวเท่านั้นให้เป็นคนเฝ้าร้าน แล้วได้แพะบิวาระขึ้นทั้งสิ้นไป เพื่อฟังธรรมกาถของ บุตระผู้จะก้าวขึ้นสู่วรรณะนี้ที่ระดับประดับไว้แล้ว ในมณฑปที่ตนเองให้สร้างไว้ภายในพระนคร เพื่อประโยชน์แก่การฟังธรรม แสดงธรรมอยู่.
[พวกโจรเข้าปล้นเรือนมหาอุสิกา]
กี่ในเวลานั้น พวกโจร ๘๐๐ เที่ยวมองหาช่องในเรือนของอุสิกานั้นอยู่. ก็เรือนของอุสิกนั้น ล้อมด้วยกำแพง ๓ ชั้น ประกอบด้วยซุ้มประตู ๓ ซุ้ม เขาว่าสุขที่ดูไว้ในที่นี้ นี่ทุก ๆ ซุ้มประตู; อนึ่ง เขาบอกไว้ในที่ตกแต่งแห่งชายภายในเรือน แล้วก็ใส่บุญกวนเต็ม. เวลากลางวัน อภิบุญนี้ปรากฏเป็นประดุจว่าสลายเดือนพล่านอยู่เพราะแสงแดด (เผา), ในเวลากลางคืน ปรากฏเป็นก่อนแข็งกระดังก, เขาปีกบานกลึกใหญ่วิ่งที่พื้นในระหว่างคูนั้นคิด ๆ กันไป. พวกโจรเหล่านั้นไม่ได้โอกาส เพราะอาศัยความลำบากนี้ และเพราะอำเขาความที่อุสิกาอยู่ภายในเรือน. วันนั้น ทราบความที่อุสิกานั้นไปแล้ว, จึงจุดอุโมงค์เข้าไปสู่เรือน โดยทางเบื้องล่างแห่งดูดีบุและบวกแห่งกีดเดียว แล้วส่งหัวหน้าโจรไปสู่สำนักของอุสิกา