พระธัมมาปติฎกษฎาแปล ภาค ๙ - หน้า 97 พระธัมมปทัฏฐกถา แปลภาค 8 หน้า 99
หน้าที่ 99 / 304

สรุปเนื้อหา

ในบทนี้กล่าวถึงธรรมะแก่นสองประการว่า ควรยึดถือในการดำรงอยู่ ส่วนเฉพาะเจาะจงในมานุสูร โดยพระมหานได้ตรัสเกี่ยวกับการไม่เศร้าโศกที่เกิดจากความเข้าใจในนามรูปที่มีการเสื่อมสลายเมื่อไม่ยึดถือในสิ่งเหล่านั้นว่าเป็นของตน ผู้ที่ไม่เศร้าโศกและเห็นความจริงตามธรรมดาจะถูกเรียกว่า 'กิญญู' และเป็นผู้มีปัญญาในการเข้าใจพระธรรมนี้อย่างลึกซึ้ง.

หัวข้อประเด็น

-ธรรมะแก่น
-มานุสูร
-ความไม่ยึดถือ
-กิญญู
-ปัญญาสร้างสติ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโคด - พระธัมมาปติฎกษฎาแปล ภาค ๙ - หน้า 97 ธรรมะแก่นทั้ง ๒ นั้น ย่อมควร" แล้วจึงทรัศว่า "พระมหาน บุคคลผู้ไม่กำหนด ไม่ของอยู่ในมานุสูร ชื่องว่า เป็นฎีกุ" ดังนี้แล้ว ตรัสพระคาถานี้ว่า :- "ความยึดถือในมานุสูรว่าเป็นของ ๆ เรา ไม่มีแก่" ผู้ใดโดยประการทั่งปวง, อึ่ง ผู้ใด ไม่เศร้าโศก เพราะนามูสูรนั่นไม่มีอยู่, ผู้ซั้นแล เราเรียกว่า "กิญญู." [แก้อรรถ] บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สพทโล คือ ในมานุสูรทั้งปวงที่เป็น ไปแล้วด้วยอำนาจนิยน์ ๕ คือ นามบันฑ์ ๕ มีเวทนาเป็นต้น และรูป นัน์. บทว่า มมายติ คำว่า ความยึดถือว่า "เรา" หรือว่า "ของเรา' ไม่มีแก่ผู้ใด. บทพระคาถาว่า อสตา จ น โโลติ คำว่า เมื่อมานุสูร นัน ลักษณะสิ้นและความเสื่อม ผู้ใด ข้อไม่เศร้าโศก คือ ไม่ื่อดอ ร้อนว่า "รูปของเราสิ้นไปแล้ว ๆ ๆ ๆ วิญญาณของเรา สิ้นไปแล้ว คือเห็น (ตามความเป็นจริง) ว่า "นามรูป ซึ่งมีความสิ้นและความ เสื่อมไปเป็นธรรมดานี้แล สิ้นไปแล้ว." บทว่า สะ เว เป็นต้น คำว่า ผู้คำน คือผู้เห็นปานนั้น ได้แก่ ผู้ว่านอกจากความยึดถือในมานุสูรซึ่งมุ่งว่าขั้นของเราก็ดี ผู้ไม่เศร้าโศก เพราะนามรูปนั้น ซึ่งไม่มียกุดี ก็พระศกาตรัสเรียกว่า 'ภิกษุ'
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More