ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - พระอิฐบุตรถูกฉาบแปล ภาค ๔ - หน้าที่ 288
เขาเคาะ (กะโหลก) ศิริยะนั่นแล้ว กราบูลาว่า "ของสัตว์ผู้เกิดในนรก." ดังนั้น พระศาสดา ประทานสาธุการแก่ว่า "คือะ" จึงรำลึกถึงศิริยะทั้ง ๓ นอกนี้ ในขณะที่กราบบูชาแล้ว ๆ ไม่ผิด คีบะทนาสุภารเหมือนอย่างนั้น จึงทรงแสดง (กะโหลก) ศิริยะที่ ๕ ตรัสถามว่า "นี้ (กะโหลก) ศิริของใคร ?" เขาเคาะ (กะโหลก) ศิริยะนั้นแล้ว ไม่รู้ที่เกิด. นี่พรศาสดา ตรัสขานว่า "วังศะ" ว่า ท่านไม่รู้หรือ ? เมื่อเขากราบบูชาแล้ว "พระเจ้ข้า ข้าพระองค์ไม่รู้" จิตตรัสว่า "ฉันรู้" วังศะ: พระองค์ทรงทรงบด้วยอะไร ? พระศาสดา ทราบด้วยกำลังสมดุล. ดังนั้น วังศะ: ทูลวิวอนพระองค์ว่า "ขอพระองค์คงประทาน มนต์นี้แก่พระองค์." พระศาสดา ตรัสว่า "เราไม่สามารถจะให้ มนต์นี้แก่บุคคลผู้ไรบอวัได้." [วังศะ: พระองค์ทรงพระเรียนพุทธมนต์] เขาถวายว่า "เมื่อเราเรียนมนต์นี้แล้ว เราก็เป็นผู้ประเสริฐใน ชมพูทวีปทั้งสิ้น" จึงส่งพราหมณ์เหล่านี้กลับนไป ด้วยคำว่า "พวกท่าน จงอยู่ในนี้นิ้นแหล่ะสิ้น ๒-๓ วัน, ฉันกลับวช" แล้วได้บรรชา อุปสมบทในสำนักพระศาสดา ได้เป็นผู้มานามว่า วังศะเระ. ดังนั้น พระศาสดา ประทานกัมมัฏฐานมีอาการ ๑๒ เป็น อารมณ์แก่เธอแล้ว ตรัสว่า "เจ้าของสายายบริกรรมสมณะ"