ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโคม - พระจัมเปถูกฏอแปล ภาค ๙. หน้า ที่ 108
ผู้มีปัญญาในพระศาสนานี้. เธอจงควบมิตรที่ดีงาม
มือถือวีอันหมดจด ไม่เกี่ยวอรัน. ภิกษุพึงเป็น
ผู้ประพฤติในปฏิสังขาร พึงเป็นผู้ลาภในอาจาระ;
เพราะเหตุนัน เธอจักเป็นผู้มาก ด้วยปาริโมหทย์
กระทำที่สูงแผ่ทุกปีได้."
[แก้วรร]
บรรดาบทเหล่านั้น ทว่า เมตตววิธิ ทว่า บุคคลผู้
ทำการในพระบรมูปฐานอันประกอบด้วยเมตตาอยู่ดี ผู้ชาน
หมวด ๓ และหมวด ๔ ให้เกิดขึ้นด้วยอำนาจแห่งเมตตาแล้วว่าดังรองอยู่
ก็ชื่อว่า ผู้มปลอดด้วยเมตตาโดยแท้.
คำว่า ปาณโน ควา่า คึกฤกได เป็นผู้เลื่อมใสแล้ว,
อธิบายว่า ย่อมปลุกฝังความเลื่อมใสลง ในพระพุทธศาสนานั้นแล.
สองบทว่า ปท ลุนุต นั่น เป็นชื่อแห่งพระนิพาน. จริงอยู่ ภิกษุ
ผู้หนีปานนั้น ย่อมมรรคผล อธิบายว่า ย่อมประสบโดยแท้ ซึ่งพระ
นิพาน อันเป็นส่วนแห่งความสงบ ชื่อว่า เป็นที่เข้าไประงับสงสาร
เพราะความที่สงบระงับจนปราลเป็นสภาวะระงับแล้ว ซึ่งมีชื่ออันได้แล้วว่า
'สุข' เพราะความเป็นสุขอย่างยิ่ง.
บทพระคาถาว่า สิตฺฉฺ วิญฺญู อิมํ นาม ว่า คำว่า ภิกษุ
เธอจงวัดเรือ กล่าวคืออัตตคตพีซึ่งมีนี้คือจิตวัตถิ้งเสียดาย.
บทพระคาถาว่า สิตฺฉฺ เต ลุฐึ ตา ลุภูมิสุตติ ความว่า เหมือน
อย่างว่า เรือที่เพียรแล้วด้วยน้ำในมหาสมุทรนั้นแล ถือว่า อันเขา