ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - พระธัมม์ทัตถูกฉกฉวยแปลภาค ๑๔ - หน้าที่ ๒๖๐
ทะนานข้าวสารนั้นเที่ยง ตลอดชีวิต.
คงได้ดับมา ถ้าชนเหล่านั้น เป็นผู้มีประสงค์จะยังแม้นเกิน
๑๐๐ เล่มให้เติมด้วยข้าวสาร มันคือปรากฎเป็นทะนานอันเต็มด้วย
ข้าวสารอยู่นั่นเอง ในเวลาทุ่งดำ พวกเขาใส่ข้าวสารในหม้อ แล้ว
วางไว้เบื้องบนแผ่นศิลาเหล่านั้น แผ่นศิลาอุกูโพลงขึ้นในขณะนั้น
นั่นเอง เมื่ออัครสักว่าลูกแล้ว ย่อมคับไป พวกเขารู้ความที่ภัทร
สุกแล้ว ด้วยสัญญาณนั้นแหละ. แต่ในเวลาแกงของครกจึง
เป็นดัง กันนี้เหมือนกัน เขาทั้ง ๒ อุ้มมุ้มอาหารด้วยแผ่นศิลา
อันลูกโพลงด้วยอาการอย่างนี้.
ชมเหล่านั้น ย่อมอยู่ค่อยๆแสงสว่างแห่งแก้วมณี, ไม่รู้แสง
สว่างของไฟหรือประทีปเลย.
[มหาชนดั่งดาวคืนนามชมสมบัติ]
ได้นว่า สมบัติตั้งโชติเศรษฐีที่หนึ่งนนั้น ได้ปรากฎทั่ว
ชมพูทวีปทั้งสิ้นแล้ว มหาชน เทียนมานเป็นดั่งมา เพื่อองค์การดู.
โชคิตเศรษฐี สั่งให้หมู่ครัวด้วยข้าวสารที่นำจากอุตตรครู--
ทิวแล้ว ไว้โดยกันทั้งหลายผู้มาแล้ว ๆ, สั่งว่า "ชนทั้งหลาย
จงถือเครื่องผ้, จงถือเอาเครื่องประดับ จากต้นกลัพลพูณทั้งหลาย,"
แล้วให้เปิดปากขุมทรัพย์พอยังอัดภาพให้เป็นไปได้." เมื่อชนทั้ง
หลายผู้อยู่ในชมพูทวีปทั้งสิ้น ถือเอาทรัพย์ไปอยู่ ปากแห่งบูทรัพย์
มิได้ผ่านลงแล้ว แม้เพียงอคูลี่เดียว.