ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - พระธรรมปิฎกฉบับแปล ภาค ๔ - หน้าที่ 292
เถิด." นางคิดว่า "ธรรมดว่า คนทั้งหลายโกรธแล้ว ย่อมไม่ให้
ใครรับทรัพยสมบัติ, นี่เรื่องอะไรกันหนอ ?" จึงกล่าวว่า "นาย
ก็น่าน่าเล่า ?"
อุบาลี จำเดิมนี้ ฉันจักไม่รู้เจาะอะไร ๆ.
ธรรมทินา. ใครจักรับน้ำลายที่ท่านวั่นทั้ง, เมื่อเป็นเช่นนั้น
ท่านจึงอนุญาตการบวชแก่ฉันเถิด.
อุบาลีนัน รู้ว่า "ถือะ นางผู้เจริญ" แล้วนางไปสู่สำนัก
ภิญฑูฎด้วยลักษณะเป็นอันมาก ให้บวชแล้ว, นางได้อุปสมบทแล้ว
ไม่มีชื่อวรรณทินานารี.
[วิลาขออุบาลาถามปัญหาในมรรคะพระเถรี]
นางไปสู่บุบทับกับภิญฑูฏนี้ทั้งหลาย เพราะความเป็นผู้มีประสงค์
วิภา เมื่ออยู่ในชมนั้นนา ไม่นานเท่าไร ก็บรรลุพระอรหัติ พร้อม
ด้วยปฏิสัญญาทั้งหลาย กลับมาสู่กรุงราชคฤห์อีก ด้วยคิดว่า
"บัดนี้ พวกชมุจฉาวิจิต อาศัยเราแล้ว จักทำบุญทั้งหลาย."
อุบาลี ได้รับความที่พระเถรีมาแล้ว คิดว่า "พระเถรีมา
เพราะเหตุใดนะ ?" จึงไปสู่สำนักภิญฑูฎนี้ ให้พระเถรีแล้วนั่ง ณ
ส่วนข้างหนึ่ง คิดว่า "การที่เราจะพูดว่า "แม่เจ้า ท่านกระสันหรือ
หนอ" ดังนี้ ก็เป็นการไม่สมควร, เราจักถามปัญหาสักข้อหนึ่งก็พระ
เถรีนั้น" แล้วถามปัญหาในโศลกปฏิมรรต. พระเถรี เฉลยปัญหาข้อ
นั้นได้. อุบาลี จึงถามปัญหาแม่ในมรรคะที่เหลือ โดยอุบายนันนั้น