อำนาจของพระพุทธเจ้า พระธัมมปทัฏฐกถา แปลภาค 8 หน้า 161
หน้าที่ 161 / 304

สรุปเนื้อหา

บทความนี้เน้นอำนาจของพระพุทธเจ้าที่รุ่งเรืองตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน เปรียบเทียบกับพระอาทิตย์ที่รุ่งเรืองเฉพาะกลางวันและพระจันทร์ในกลางคืน โดยระบุว่าพระพุทธเจ้ามีเดช ๕ อย่างที่ทำให้ทรงอำนาจไม่ว่าจะเป็นเวลาใด, เนื้อหาอธิบายว่าผู้มีความมั่งคั่งและผู้นำทางการเมืองก็มีอำนาจในเวลาที่จำกัดเท่านั้น ในขณะที่พระพุทธเจ้ามีเดชที่ยิ่งใหญ่กว่าทั้งหมด

หัวข้อประเด็น

-อำนาจของพระพุทธเจ้า
-การเปรียบเทียบกับดวงอาทิตย์และดวงจันทร์
-บทบาทของพระราชาและผู้มีอำนาจในสังคม
-ความสำคัญของธรรมะในชีวิต

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโคด - พระธัมม์ทัชถูกแปลภาค ๔ - หน้าที่ 159 ลำดับนั้น พระศาสดา ทรงสะท่านว่า "อนนท์ ธรรมดา พระอาทิตย์ ย่อมรุ่งเรืองในกลางวัน, พระจันทร์ ย่อมรุ่งเรืองใน กลางคืน, พระราชา ย่อมรุ่งเรืองในเวลาเที่ยงวันเท่านั้น, พระ ฉันฑ์สฟ และความรำคาญด้วยหมูแล้ว ย่อมรุ่งเรืองในภายในสมบัติ ท่านนั้น, ส่วนพระพุทธเจ้า ย่อมรุ่งเรืองด้วยเดช ๕ อย่าง ทั้งในกลางคืน ทั้งในกลางวัน" ดังนี้แล้ว ทรงพระคาถานี้ว่า:- "พระอาทิตย์ ย่อมส่องแสงในกลางวัน, พระ จันทร์ ย่อมรุ่งเรืองในกลางคืน, กฤษฏี๋รง เครื่องรบแล้ว ย่อมรุ่งเรือง, พราหมณ์ผู้มีความ เฟื่อง ย่อมรุ่งเรือง, ส่วนพระพุทธเจ้า ย่อม รุ่งเรืองด้วยเดช ตอนกลางวันและกลางคืน." [แก้สรภ] บรรดาบทเหล่านั้น สองบทว่า ทิวา ตทิ ความว่า พระ อาทิตย์ ย่อมรุ่งเรืองเฉพาะในกลางวัน, แต่แม้กษุ่งพระอาทิตย์ขึ้นไป ในกลางคืน หาปรากฎไม่. บทว่า จันทิมา ความว่า แม้พระจันทร์ ที่พ้นแล้วจากหมอก เป็นต้น ก็รุ่งเรืองเฉพาะในกลางคืน, หารุ่งเรืองในกลางวันไม่. บทว่า สนุนทโม ความว่า พระราชผู้ทรงประดับด้วยเครื่อง อสนิยารดั่งปวงอันจิตด้วยของและเกลื่อนจี อันสนมมึงก์ ๕ แว่นคล้องแล้วเท่านั้น ย่อมรุ่งเรือง, ท้าวเธอประทับอยู่ด้วยเภค้อน ๑. พล้าง พลมา พลอร พลเดนเท่า.
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More