ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโคด - พระธัมม์ทัชถูกแปลภาค ๔ - หน้าที่ 159
ลำดับนั้น พระศาสดา ทรงสะท่านว่า "อนนท์ ธรรมดา
พระอาทิตย์ ย่อมรุ่งเรืองในกลางวัน, พระจันทร์ ย่อมรุ่งเรืองใน
กลางคืน, พระราชา ย่อมรุ่งเรืองในเวลาเที่ยงวันเท่านั้น, พระ
ฉันฑ์สฟ และความรำคาญด้วยหมูแล้ว ย่อมรุ่งเรืองในภายในสมบัติ
ท่านนั้น, ส่วนพระพุทธเจ้า ย่อมรุ่งเรืองด้วยเดช ๕ อย่าง ทั้งในกลางคืน
ทั้งในกลางวัน" ดังนี้แล้ว ทรงพระคาถานี้ว่า:-
"พระอาทิตย์ ย่อมส่องแสงในกลางวัน, พระ
จันทร์ ย่อมรุ่งเรืองในกลางคืน, กฤษฏี๋รง
เครื่องรบแล้ว ย่อมรุ่งเรือง, พราหมณ์ผู้มีความ
เฟื่อง ย่อมรุ่งเรือง, ส่วนพระพุทธเจ้า ย่อม
รุ่งเรืองด้วยเดช ตอนกลางวันและกลางคืน."
[แก้สรภ]
บรรดาบทเหล่านั้น สองบทว่า ทิวา ตทิ ความว่า พระ
อาทิตย์ ย่อมรุ่งเรืองเฉพาะในกลางวัน, แต่แม้กษุ่งพระอาทิตย์ขึ้นไป
ในกลางคืน หาปรากฎไม่.
บทว่า จันทิมา ความว่า แม้พระจันทร์ ที่พ้นแล้วจากหมอก
เป็นต้น ก็รุ่งเรืองเฉพาะในกลางคืน, หารุ่งเรืองในกลางวันไม่.
บทว่า สนุนทโม ความว่า พระราชผู้ทรงประดับด้วยเครื่อง
อสนิยารดั่งปวงอันจิตด้วยของและเกลื่อนจี อันสนมมึงก์ ๕
แว่นคล้องแล้วเท่านั้น ย่อมรุ่งเรือง, ท้าวเธอประทับอยู่ด้วยเภค้อน
๑. พล้าง พลมา พลอร พลเดนเท่า.