ข้อความต้นฉบับในหน้า
คัมภีร์ปฏิรูปมนุษย์
ดุจเดียวกับดวงแก้วเจียระไนไร้มลทิน ดวงจันทร์หรือดวงอาทิตย์ยามไร้
เมฆหมอกบดบัง ฉะนั้น
นอกจากนี้บุคคลใดที่มีใจมืดตื้อ มืดมิด ด้วยอำนาจกิเลส หาก
ตั้งใจฝึกหัดปฏิบัติตนตามคำสั่งสอนแนะนำ ตามท่านผู้รู้ อย่างต่อเนื่อง
เอาจริงเอาจัง วันหนึ่งใจของบุคคลนั้นก็จะใสสว่างขึ้นได้ เพราะอำนาจมืด
ของกิเลสได้ถูกขับไล่ออกไปแล้ว ทำนองเดียวกับมวลเมฆที่บดบังดวงจันทร์
หรือดวงอาทิตย์ได้ถูกขับไล่ให้เคลื่อนคล้อยจากไปด้วยแรงลม
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงรู้แจ้งชัดถึงปรากฏการณ์ตามธรรมชาติของ
ใจ ดังได้พรรณนามานี้เป็นอย่างดี จึงได้ทรงชี้แนะหลักการปฏิบัติให้แก่
ชาวโลก ซึ่งอาจสรุปเป็นสาระสำคัญ ในการครองชีวิตให้เป็นอิสระจาก
อำนาจกิเลสได้ ๒ ประการ คือ
๑) ต้องมีสติระมัดระวังใจให้ห่างไกลจากสิ่งเร้า เพื่อป้องกันการ
กำเริบของกิเลสในใจตน
๒) สัมมาทิฏฐิที่ปลูกฝังลงในจิตใจอย่างมั่นคงแล้ว จะช่วยให้คน
เรามีสติดังกล่าวในข้อ
ซึ่งนอกจากจะสามารถป้องกันไม่ให้กิเลส
ที่นอนนิ่งอยู่ในใจกำเริบขึ้นแล้ว ยังจะเป็นเหตุให้สามารถกำจัดกิเลสที่เคย
กำเริบมาก่อนให้ลดน้อยถอยลงตามลำดับๆ ได้อีกด้วย
เพราะฉะนั้น สาระสำคัญทั้ง ๒ ประการนี้ จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะ
ใช้เป็นแม่บทของกระบวนวิธีในการปฏิรูปมนุษย์
เพื่อให้เข้าใจง่าย อาจกล่าวได้อีกอย่างหนึ่งว่า กระบวนวิธีในการ
ปฏิรูปมนุษย์ที่เหมาะสมถูกต้องก็คือ การปลูกฝังสัมมาทิฏฐิให้มั่นคงลงใน
จิตใจของปุถุชนให้ได้ เมื่อบุคคลเกิดสัมมาทิฏฐิ หรือความเข้าใจถูกเกี่ยวกับ
เรื่องโลกและชีวิตตามจริงแล้ว มิจฉาทิฏฐิ คือความเข้าใจผิดๆ ที่เคยมี