บ้านหลังใหม่และการเข้าใจกรรม : หน้า 39/397

บทที่ ๑ บ้านหลังใหม่ของเราจะมีรูปทรงสวยงามใหญ่โตโอฬาร อยู่ในทำเล และสิ่งแวดล้อมดีงาม หรือจะมีรูปทรงกระจอกงอกง่อยแช่อยู่ในน้ำคร่ำ ย่อมขึ้นอยู่กับงบประมาณที่เรามีฉันใด ในทำนองเดียวกัน ใจที่ละร่างไปแล้ว จำเป็นต้องมีร่างกายใหม่เป็น ที่อาศัย แต่ร่างกายใหม่ของเราจะสวยโสภาน่ารัก ขี้ริ้วขี้เหร่หรืออัปลักษณ์ ย่อมขึ้นอยู่กับผลกรรมดีกรรมชั่วที่เราเคยก่อไว้เองในขณะมีชีวิตฉันนั้น บุคคลที่มีใจสว่างขึ้นมาตามลำดับ จนไต่ระดับขึ้นมาถึงสัมมาทิฏฐิ ระดับที่ 5 ย่อมเชื่อโดยไม่งมงายว่า โลกหน้ามีจริง การไปบังเกิดในนรก สวรรค์เป็นจริง และแม้การที่คนเลวต้องไปเกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉาน ล้วน เป็นผลของกรรมในอดีตของบุคคลนั้นเอง การยอมรับเช่นนี้คือความ เข้าใจถูกว่า “โลกหน้ามี ยิ่งกว่านั้นบุคคลประเภทนี้ ยังจะประจักษ์ชัดต่อไปอีกว่า ใจมี ๒๕ อำนาจควบคุมกายอย่างแท้จริง ถ้าบุคคลปรารถนาจะตั้งอยู่ในความดีให้ ได้ตลอดไป ก็ต้องพัฒนาใจให้บริสุทธิ์ ใส สว่าง แล้วความสว่างนี้เอง ที่สามารถใช้สำหรับฆ่ากำจัดกิเลสที่ห่อหุ้มใจได้ เฉกเช่นความสว่างของ ดวงอาทิตย์หรือดวงไฟ ย่อมสามารถฆ่ากำจัดความมืดที่หุ้มห่อโลกได้ ฉะนั้น สัมมาทิฏฐิระดับที่ ๗ มารดามี หมายถึงมารดามีพระคุณต่อบุตร แม้ชาวพุทธโดยทั่วไปจะตระหนักว่ามารดามีพระคุณต่อตนอย่างใหญ่หลวง ถึงกับมีถ้อยคำอุปมาอุปไมยมาเป็นเวลาช้านานแล้วว่า ถ้าจะใช้โลกคือ แผ่นดินแทนปากกา จุ่มน้ำในมหาสมุทรแทนน้ำหมึก เขียนพรรณนา พระคุณของแม่ บนแผ่นฟ้าซึ่งใช้แทนกระดาษ จนกระทั่งน้ำในมหาสมุทร เหือดแห้งไปหมด ก็จะยังไม่สามารถประกาศพระคุณของแม่ได้ครบถ้วน สมบูรณ์