ข้อความต้นฉบับในหน้า
บทที่ ๔
คนเราจะเจริญตามลำพังตัวเองไม่ได้
ถึงแม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะตรัสว่า “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ” แต่พระองค์ก็ทรงให้ความสําคัญกับเพื่อนมนุษย์
ที่อยู่ร่วมสังคมหรือทิศ 5 เป็นอย่างยิ่ง กล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ ทรงเห็น
ว่า คนเราจะเจริญ ได้ดิบได้ดีโดยลำพังตนเอง ไม่ต้องพึ่งพาอาศัยผู้อื่น
หรือเพื่อนพ้องในสังคมนั้น เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลย
A
แม้พระองค์ซึ่งเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ยังต้องทรงพึ่งพาอาศัย
ผู้อื่น นับตั้งแต่หลังจากประสูติ ก็ต้องทรงอาศัยพระน้านาง คือพระนางม
หาปชาบดีทรงเลี้ยงดูอุ้มชูมา เมื่อทรงเจริญวัย ก็ได้ทรงอาศัยพราหมณ์ ๕๗)
ศวามิตร เป็นครูสอนศิลปวิทยาอันเป็นความรู้พื้นฐานของชาวโลกให้
ครั้นเมื่อเสด็จออกบรรพชา ก็ได้ทรงอาศัยนักบวช ๒ รูปคือ อาฬารดาบส
กับอุทกดาบส เป็นอาจารย์สอนสมาธิให้ จนกระทั่งทรงบรรลุสมาบัติ ๘
ขณะที่เสด็จไปบำเพ็ญทุกกรกิริยา ก็ได้ทรงอาศัยพระปัญจวัคคีย์ติดตาม
อุปัฏฐาก อ่านวยความสะดวกต่างๆ ให้ แม้ในวันตรัสรู้ ก็ได้ทรงอาศัย
นางสุชาดาถวายข้าวมธุปายาส จึงทรงมีพละกำลังเจริญภาวนา จนกระทั่ง
ตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระบรมครู
ของพวกเรา แม้เมื่อตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ก็ยังต้องทรง
อาศัยปัจจัย ๔ จากพุทธบริษัทตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์
ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า ตัวเราเองก็จำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยผู้อื่น เรา
หนีเพื่อน หนีสังคม หนีบุคคลรอบด้านไม่ได้ นั่นคือ เราจำเป็นต้องคบ
มิตรหรือคบเพื่อน ต้องมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับบุคคลในทิศ 5