ข้อความต้นฉบับในหน้า
๑๐
คัมภีร์ปฏิรูปมนุษย์
ใจตนให้บริสุทธิ์หมดจด จนกระทั่งกิเลสถูกกำจัดไปโดยสิ้นเชิง มีดวงจิต
สว่างไสว เกิดญาณทัสสนะรู้แจ้งโลก ด้วยตนเอง แล้วนำความรู้นั้นมาสั่ง
สอนชาวโลก เป็นสิ่งที่เป็นจริง มีอยู่จริงในโลก โดยสรุปก็คือ สามารถ ตรอง
ได้ว่า พระพุทธเจ้ามีจริง
เพราะ
การเชื่อว่าพระพุทธเจ้ามีจริง ย่อมมีนัยว่า พระพุทธองค์ทรงรู้แจ้ง
เห็นจริงตามที่ตรัสสอนสัมมาทิฏฐิทั้ง ๔ ประการ มาตามลำดับ
ถ้าไม่ทรงรู้จริงย่อมไม่สามารถตรัสสอนได้เช่นนั้น และความรู้นี้เกิดจาก
ประสบการณ์การพัฒนาความสว่างให้เกิดขึ้นในจิตใจตามลำดับๆ ของ
พระองค์เอง และด้วยพระองค์เอง โดยไม่มีผู้รู้ใดมาสอนให้ เนื่องจาก
ไม่เคยปรากฏมีคำสอนเช่นนี้จากศาสดาองค์ใดในโลกมาก่อนเลย ดังนั้น
ความรู้ทั้งมวลของพระบรมศาสดาจึงถือว่าเป็นการตรัสรู้ คือรู้ได้ด้วย
พระองค์เอง
กล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ ความรู้เรื่องสัมมาทิฏฐิ (รวมทั้งพุทธธรรม
ทั้งมวล) เกิดจากประสบการณ์ในการศึกษาและปฏิบัติทางจิตอย่างทุ่มเท
จริงจังของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บุคคลที่ตรองได้เช่นนี้จึงไม่ติดใจสงสัย
เรื่องพระพุทธเจ้ามีจริง
บุคคลที่สามารถครองตามสาระสำคัญของสัมมาทิฏฐิทั้ง ๑๐ ประการ
มาตามลำดับขั้น นอกจากจะยอมรับว่าพระพุทธเจ้ามีจริงแล้ว ยังจะรู้และ
เข้าใจได้ทันทีว่า ตนเองเกิดมาทำไม แน่นอนไม่ใช่เกิดมาเพียงเพื่อใช้กรรม
เก่าดังที่คนส่วนมากหลงเข้าใจผิดกัน นั่นคือ สัมมาทิฏฐิขั้นพื้นฐานของ
เขาได้เกิดขึ้นแล้ว คือเกิดความเข้าใจถูกเกี่ยวกับโลกและชีวิตตามจริง ซึ่ง
อาจกล่าวสั้นๆ ว่าเข้าใจถูกต้อง
ความเข้าใจถูกต้องนี้เอง จะทำหน้าที่ผลักดันให้บุคคลเกิดความ
คิดที่จะปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ด้วยตนเองอย่าง