ข้อความต้นฉบับในหน้า
คัมภีร์ปฏิรูปมนุษย์
อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกกตัญญูขนาดนี้ก็ถือว่ายังเป็นความเข้าใจ
ถูกในระดับผิวเผินเท่านั้น เพราะมองเห็นเพียงแต่ว่า มารดาต้องเหนื่อย
ยากลำบาก ประคบประหงมเลี้ยงดูบุตร ตั้งแต่ยังเป็นทารกอยู่ในครรภ์
กว่าจะเลี้ยงลูกแต่ละคนจนเติบใหญ่ สามารถทำมาหากินเลี้ยงชีวิตได้ด้วย
ตนเองนั้น มารดาต้องเหนื่อยยากอยู่นานแสนนาน แท้ที่จริง พระคุณ
อันยิ่งใหญ่ของมารดาตามนัยที่พระพุทธองค์ตรัสว่า “มารดามี” นั้นหมาย
ถึงพระคุณของมารดาที่มีต่อบุตรซึ่งอาจสรุปได้เป็น ๓ ประการหลัก คือ
๑.
ให้ชีวิตแก่บุตร
๒.ให้ต้นแบบร่างกายที่เป็นมนุษย์ ซึ่งเหมาะกับการทำความดีด้วย
ประการทั้งปวง ไม่มีสัตวโลกชนิดใดๆ เทียบเทียมได้ แม้เทวดาก็สู้ไม่ได้
๓.
๒๖
ให้ต้นแบบจิตใจที่เป็นมนุษย์
บุคคลที่เกิดความเข้าใจถูกเป็นสัมมาทิฏฐิ ทั้ง 5 ประการที่ผ่านมา
ย่อมสามารถตรองเห็นพระคุณของมารดาได้โดยไม่ยากเลย
สัมมาทิฏฐิระดับที่ ๘ บิดามี หมายความว่า บิดามีพระคุณต่อบุตร
จริง พระคุณอันยิ่งใหญ่ของบิดาก็ทำนองเดียวกับของมารดานั่นเอง คือ
๑) ให้ชีวิต
๒) เป็นต้นแบบทางกาย
๓) เป็นต้นแบบทางใจ
เนื่องจากมารดาต้องอุ้มครรภ์อยู่เป็นเวลานานถึง ๔ เดือน ๑๐ เดือน
ทำให้บางคนมองว่ามารดามีพระคุณมากกว่าบิดา จึงมักจะมีคำถามว่าพ่อ
กับแม่ใครมีพระคุณมากกว่ากัน?