ข้อความต้นฉบับในหน้า
๒๑๖
คัมภีร์ปฏิรูปมนุษย์
การแพร่ระบาดของโรคมักง่ายและเห็นแก่ตัวได้สำเร็จ ตราบนั้นการบุกรุก
ทำลายป่าก็จะมีอยู่ต่อไป จนกระทั่งไม่เหลือป่าให้บุกรุกอีกนั่นแหละ และ
เมื่อเวลานั้นมาถึง คำว่า “สังคมสันติสุข” ก็อาจจะเป็นเพียงคำศัพท์โบราณ
ซึ่งยากจะเข้าใจ เพราะผู้คนในสังคมล้วนประสบความเดือดร้อนและทุกข์
ระทมกันทั่วทุกหย่อมหญ้า ทุกลมหายใจเข้าออก จินตนาการไม่ออกว่า
สันติสุขจะเกิดขึ้นในโลกนี้ได้อย่างไร ทำนองเดียวกับชาวพุทธที่เป็นพุทธ
แต่เฉพาะทะเบียนบ้านในปัจจุบัน สงสัยกันอยู่ว่า นิพพานน่ะมีจริงๆ หรือ
สรุปปัญหาในทิศเบื้องซ้าย
ปัญหาในทิศเบื้องซ้ายนี้อาจแบ่งออกได้เป็น ๒ ประเภท คือ
๑. ปัญหาที่สังคมเห็นชัดเจน ได้แก่ ปัญหาฉ้อราษฎร์บังหลวง
ปัญหาอาชญากรรม ปัญหาอบายมุข ปัญหาโสเภณี
๒. ปัญหาที่สังคมเห็นไม่ชัดเจน ได้แก่ ปัญหามิตรเทียม
บุคคลที่อยู่ในตำแหน่งสูงๆ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง ข้าราชการหรือพนัก
งานรัฐวิสาหกิจที่มีพฤติกรรมชั่ว ล้วนมีหลังฉากเป็นผู้ร้ายทั้งสิ้น แต่คนใน
สังคมโดยทั่วไปไม่สามารถเห็นได้ จะเห็นได้แต่เพียงหน้าฉาก ของเขาซึ่ง
แสดงบทผู้ดี จึงดูเป็นคนน่าเคารพนับถือและมีอำนาจน่าเกรงขาม
สาเหตุรากเหง้าของมิตรเทียมนั้นเริ่มมาจากบ้าน ที่พ่อแม่ขาด
อริยวินัยเป็นลำดับแรก ครั้นเมื่อไปโรงเรียน ก็ได้ครูอาจารย์ที่ขาดอริยวินัย
จึงสั่งสมลักษณะนิสัยของมิตรเทียมไว้พอประมาณ เมื่อเป็นคนพาลเสียแล้ว
ก็ย่อมจะพอใจที่จะเสวนากับคนพาล ลักษณะนิสัยของมิตรเทียมจึงกำเริบ
ขึ้นเต็มรูปแบบ