ข้อความต้นฉบับในหน้า
บทที่ ๙
เมื่อพระพุทธองค์ทรงแบ่งบุคคลแวดล้อมตัวเราออกเป็นทิศ 5
แล้ว ก็ทรงบัญญัติหน้าที่เป็นอริยวินัย ให้ตัวเราปฏิบัติต่อทิศ 5 อย่าง
น้อยทิศละ ๕ ข้อ และทิศ 5 ก็ต้องมีอริยวินัยปฏิบัติต่อตัวเรา อย่าง
น้อยทิศละ 4 ข้อ ยกเว้นทิศเบื้องบน ทรงบัญญัติหน้าที่ให้ปฏิบัติต่อ
คฤหัสถ์ ๖ ข้อ
ผู้ปิดป้องทิศ ๖ มีความหมายอย่างไร?
ถ้าตัวเรามีอริยวินัย ปฏิบัติหน้าที่ตามที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติ
ไว้ต่อทิศต่างๆ อย่างสมบูรณ์ ครบถ้วน ย่อมได้ชื่อว่า “ปฏิบัติถูก” ถ้า
ปฏิบัติบกพร่อง ย่อมได้ชื่อว่า “ปฏิบัติผิด” ขณะเดียวกัน ถ้าทิศ 5 ของ
เราแต่ละทิศ มีอริยวินัย ปฏิบัติหน้าที่สมบูรณ์ ไม่บกพร่อง ย่อมได้ชื่อว่า
“ปฏิบัติถูก” ถ้าปฏิบัติบกพร่อง ย่อมได้ชื่อว่า “ปฏิบัติผิด”
ถ้าตัวเราปฏิบัติถูก แต่ทิศ 5 ของเรา หรือแม้เพียงทิศใดทิศ ๓๒๑
หนึ่งในทิศ 5 ของเราปฏิบัติผิด โทษภัยต่างๆ ย่อมมีโอกาสเกิดขึ้นแก่
ตัวเรา นั่นคือ เราไม่สามารถปิดป้องทิศ 5 ได้
ถ้าตัวเราปฏิบัติผิด แต่ทิศ 5 ของเราปฏิบัติถูก โทษภัยย่อม
เกิดขึ้นแก่ตัวเรา อย่างแน่นอน นั่นคือ เราไม่สามารถปิดป้องทิศ 5 ได้
ถ้าทั้งตัวเราและทิศ 5 ของเราปฏิบัติถูก โทษภัยต่างๆ ย่อม
ไม่เกิดขึ้นแก่ตัวเรา นั่นคือเราสามารถปิดป้องทิศ 5 ได้ เพราะฉะนั้น จึง
กล่าวสรุปได้ว่า ผู้ปิดป้องทิศ 5 ก็คือคนดี ซึ่งมีทิศ ๖ เป็นคนดี จึงปราศ
จากโทษภัยทั้งปวง
จึงมีความ
ดังนั้น จากพุทธพจน์ที่ว่า “อริยสาวกนั้นเป็นผู้ปราศจาก
บาปกรรม ๑๔ ประการ นี้แล้ว ชื่อว่าเป็นผู้ปิดป้องทิศ 5
หมายว่า อริยสาวก หรืออริยบุคคลนั้น นอกจากจะปราศจากบาปกรรม
๑๔ ประการแล้ว ยังเป็นผู้มีอริยวินัย ปฏิบัติหน้าที่ต่อทิศ 5 ของท่าน
โดยไม่บกพร่อง ขณะเดียวกันทิศ 5 ของท่านก็ปฏิบัติหน้าที่อันพึงปฏิบัติ