ข้อความต้นฉบับในหน้า
บทที่ ๙
เพราะเหตุนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงได้ตรัสชี้โทษของ
อบายมุขเป็นพิเศษ โดยแบ่งอบายมุขออกเป็น 5 ประเภท คือ
๑. การเสพน้ำเมา คือ สุราเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
ในสภาพสังคมปัจจุบัน มีการเสพยาบ้า และยาเสพติดหลายอย่างที่
ทำลายประสาทสมองของผู้เสพไปตลอดชีวิต ก็อนุโลมให้รวมอยู่ในข้อนี้ด้วย
๒. การเที่ยวกลางคืน ประเด็นสำคัญของอบายมุขข้อนี้ คือ
การเที่ยวไปตามสถานที่ที่คนดีไม่ควรไป ซึ่งอาจจะเป็นเวลากลางวันหรือ
กลางคืนก็ตาม เพราะนอกจากจะเสียทรัพย์แล้ว ยังอาจจะประสบปัญหา
ต่างๆ อีกมากมาย
๓. การเที่ยวดูมหรสพ ประเด็นสำคัญของอบายมุขข้อนี้ คือ ๓๒๒
ความหมกมุ่นในสิ่งบันเทิงเริงรมย์ต่างๆ เพราะจะเป็นอุปสรรคต่อการทำ
มาหากิน ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจตามมา
๔. การเล่นการพนัน อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท เป็นที่รู้
กันโดยทั่วไปในบ้านเมืองเราว่า การพนันก่อให้เกิดปัญหาอุกฤษฎ์ ถึงขั้น
ทําให้ผู้คนหมดตัวและหมดอนาคตมามากแล้ว แต่ในปัจจุบันการพนันก็
ยังเป็นเกมที่มีผู้คนจำนวนมากนิยมเสี่ยงโชคกันอยู่ และพยายามเสนอ
แนะให้รัฐบาลส่งเสริม สนับสนุนให้เป็นเรื่องถูกกฎหมาย
๕. การคบคนชั่วเป็นมิตร พระพุทธองค์ทรงถือว่าข้อนี้เป็นสุด
ยอดแห่งอบายมุข