ข้อความต้นฉบับในหน้า
៩៤
คัมภีร์ปฏิรูปมนุษย์
คนที่ปากท้องอิ่มแล้วย่อมจะรับฟังธรรมะได้ง่าย แต่ทั้งนี้ก็
มิได้หมายความว่า คนที่ปากท้องอิ่มแล้วจะเป็นคนดีเสมอไป เพราะถ้าคน
ที่ปากท้องอิ่มแล้วต้องเป็นคนดี เศรษฐีก็คงเป็นคนดีกันทุกคน แต่ความ
จริงที่ปรากฏคือ มีเศรษฐีจำนวนมากเป็นคนเลว พัวพันเกี่ยวข้องอยู่กับ
เรื่องผิดศีลธรรม ผิดกฎหมาย สำหรับคนจนนั้นขอเพียงแต่ไม่อดอยาก
ยากไร้เหลือทน เขาก็เป็นคนดีได้ ดังนั้นความดีความชั่วของคนจึงไม่สามารถ
วัดกันที่ความรวยหรือความจน อย่างไรก็ตาม คนที่ฟังธรรมได้เข้าใจ สามารถ
นำธรรมะไปพัฒนาทั้งร่างกายและจิตใจให้ก้าวหน้าได้มากกว่าคนอื่นๆ คือ
คนที่ไม่มีปัญหาเรื่องปากท้อง
นอกจากนี้ พระพุทธองค์คงจะทรงเห็นว่า อบายมุข 5 คือ ตัว
ผลักดันให้คนเราประพฤติกรรมกิเลส ๔ อคติ ๔ ปิดป้องทิศ 5 ไม่ได้
และทำลายสิ่งแวดล้อม ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า ถ้าคนเรามีจิตสำนึก รับผิด
ชอบต่อศีลธรรมทางเศรษฐกิจอย่างแท้จริงแล้ว เขาย่อมเกิดความ สำนึก
รับผิดชอบต่อศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ของตนเอง ต่อสังคม หรือต่อ
ศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น ซึ่งร่วมสังคม) ต่อทิศ 5 และต่อสิ่ง
แวดล้อมตามธรรมชาติได้โดยง่าย นั่นคือคนที่เห็นโทษของ อบายมุข 5
อย่างชัดเจน ไม่พัวพันเกี่ยวข้องกับอบายมุข 5 ย่อมเป็น คนมีอริยวินัย
ควบคุมตนในด้านเศรษฐกิจส่วนตัวเป็นอย่างดี ย่อมมีแนวโน้มที่จะเป็น
คนดีอย่างแน่นอน