ข้อความต้นฉบับในหน้า
๒๖๔
คัมภีร์ปฏิรูปมนุษย์
เพราะฉะนั้น จึงถือได้ว่าทิศเบื้องหน้ามีบทบาทและอิทธิพลต่อพื้น
ฐานจิตใจ ลักษณะนิสัย ทัศนคติ ตลอดถึงค่านิยม ต่อชีวิตวัยเยาว์ของ
คนเรามากที่สุด และมีผลต่อเนื่องไปถึงเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ไม่มากก็น้อย
ด้วยเหตุนี้จึงถือว่าพ่อแม่คือครูคู่แรกของลูก นั่นคือ สถานที่สำคัญ
ที่สุดในการปลูกฝังอริยวินัยให้แก่คนเรา คือ “บ้านหรือครอบครัว”
ครั้นเมื่อเด็กไปโรงเรียน ทิศเบื้องขวาก็จะมีบทบาทสำคัญ ในการ
ปลูกฝังระเบียบวินัยต่างๆ ได้กว้างขวางยิ่งขึ้นต่อจากบ้าน วิชาต่างๆ ที่ครูสอน
หนังสือตำรับตำราต่างๆ ที่เด็กได้อ่าน กิจกรรมต่างๆ ที่เด็กไ
ที่เด็กได้ทำร่วมกับ
ครูและเพื่อนๆ นอกจากจะให้ความรู้และทักษะโดยตรงกับเด็กแล้ว ยัง
สามารถส่งเสริมในด้านความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งจะมีส่วนพัฒนาให้เกิดนิสัย
ดีๆ แก่เด็กได้อีกด้วย
บ
เพราะเหตุนี้ จึงมีผู้เปรียบครูว่า ครูเป็นเสมือนพ่อแม่คนที่สองของ
นั่นคือ แหล่งสําคัญอีกแห่งหนึ่งในการปลูกฝังอริยวินัยให้คนเรา ก็คือ
โรงเรียน
คนเราจำเป็นต้องมีความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรมควบคู่กันไป ความ
รู้ทางโลกมีไว้เพื่อการทำมาหากิน เลี้ยงชีวิตในชาตินี้ด้วยลำแข้งของตนเอง
ความรู้ทางธรรมมีไว้เพื่อประคองหรือควบคุมคนเรา ให้สามารถทำมาหา
กินด้วยความสุจริตตลอดไป อีกทั้งยังชี้แนะแนวทางให้คนเราเข้าใจโลก
และชีวิตตามจริง เพื่อจะได้คิดหาทางพัฒนาปัญญาเพื่อนำตนให้พ้นจาก
ทุกข์ในสังสารวัฏ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงกำหนดให้พระภิกษุสงฆ์เป็นทิศเบื้องบน
และได้ทรง
มีหน้าที่โดยตรงในการอบรมสั่งสอนธรรมะให้แก่ฆราวาส
กําหนดหน้าที่ของทิศเบื้องบนไว้มากกว่าหน้าที่ของทิศอื่นๆ อีก ๑ ข้อ
ซึ่งถือว่าเป็นหน้าที่พิเศษสุดของทิศเบื้องบน คือ หน้าที่ "บอกทางสวรรค์
ให้แก่ฆราวาส” ทั้งนี้ย่อมหมายความว่า พระภิกษุต้องมีหน้าที่ปลูกฝังอริย