ข้อความต้นฉบับในหน้า
บทที่ ๓
๕) ชักนำให้เป็นคนโกงเขาซึ่งหน้า
๖) ชักนำให้เป็นนักเลงหัวไม้
จากโทษทั้ง 5 ประการ ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ ย่อม
เห็นได้ชัดเจนว่า การคบมิตรชั่วจะทำให้เราเสียผู้เสียคนโดยฝ่ายเดียว
ไม่มีทางที่จะได้รับประโยชน์อันใดจากมิตรชั่วเลย
ดังนั้น การคบคนหรือคบเพื่อนฝูงจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
จำเป็นต้องพิจารณา ไตร่ตรองให้รอบคอบ และยึดภาษิตเตือนใจว่า “คบ
พาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล” ไว้เสมอ
๖. โทษของความเกียจคร้าน
คนเกียจคร้านในโลกนี้อาจแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ ๒ กลุ่ม
คือ กลุ่มที่เกียจคร้านโดยขันธสันดาน กับกลุ่มที่เกียจคร้านอันเนื่องมา
จากอบายมุขทั้ง ๕ ประการ ข้างต้น
การทำงานประกอบอาชีพเป็นหน้าที่ของทุกคน เพราะทุกคน
มีชีวิตอยู่ได้ด้วยปัจจัย ๔ การทำงานประกอบอาชีพ ก็เพื่อหาทรัพย์สินมา
เป็นเครื่องแลกเปลี่ยนปัจจัย ๔ รวมทั้งเพื่อสงเคราะห์ญาติมิตร ตลอด
จนเพื่อการบริจาคเป็นทานกุศล สั่งสมไว้ในภพชาติเบื้องหน้าต่อไป
คนที่เกียจคร้าน ไม่ยอมทำงาน หรือทำงานคั่งค้าง ไม่ตั้งใจทำ
มาหากิน ปล่อยเวลาให้ล่วงไป ๆ ถือว่าเป็นคนที่ตายแล้วทางด้านความคิด
และความดี
คนบางคนเกียจคร้านในการทำงาน ทั้งๆ ที่ยากจน จึงต้อง
หาวิธีเอาตัวรอดด้วยการทำตัวเป็นกาฝากอาศัยคนอื่นบ้าง ทำลายสิ่ง
៩១