ข้อความต้นฉบับในหน้า
บทที่ ๓
แต่เนื่องจากคนส่วนมากเป็นคนใจหยาบ ปัญญามีขอบเขตจำกัด คิดได้
เพียงตื้นๆ จึงเลือกการพักผ่อนหย่อนใจด้วยการเสพสุรายาเมา ดังนั้น
แทนที่จะได้พักผ่อนอย่างแท้จริง กลับทําให้เครียดหนักยิ่งขึ้น เพราะมีข้อ
เสียหรือโทษดังที่พระพุทธองค์ทรงชี้ให้ดูแล้ว ส่วนการเที่ยวกลางคืนและ
การดูมหรสพแทนที่จะเป็นการพักผ่อน กลับมีปัญหาเสียหายร้ายแรง
ทำให้เครียดหนักขึ้นอีก
สำหรับการเล่นการพนัน แม้เพื่อการพักผ่อน แต่ก็ทำให้เสีย
ทั้งทรัพย์ เสียทั้งอารมณ์อีกด้วย ดังนั้นใครก็ตามที่เลือกการพักผ่อนด้วย
อบายมุขประเภทต่างๆ ในที่สุดก็จะถลำตัวเข้าไปหมกมุ่นกับอบายมุขเหล่า
นั้นจนถอนตัวไม่ขึ้น นับว่าเป็นการทำลายและทำร้ายตนเองด้วยความโง่
เขลาเบาปัญญาแท้ๆ
สรุป
เป็นที่น่าสังเกตว่า พระสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงอริยวินัย
ที่ต้องประพฤติปฏิบัติให้สมบูรณ์ครบถ้วนถึง ๓ หมวด คือ การละเว้น
กรรมกิเลส ๔ อคติ ๔ และอบายมุข 5 แต่เหตุไฉนพระพุทธองค์จึงทรง
อธิบายขยายความและชี้โทษเป็นพิเศษเพียงหมวดเดียว คือ อบายมุข 5
หากจะพิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบ น่าจะพอสันนิษฐานได้
ว่า พระพุทธองค์ทรงเห็นว่า อบายมุข 5 เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับฐานะ
การเงินหรือเศรษฐกิจ ผู้ที่สามารถบริหารจัดการเรื่องรายรับรายจ่ายของ
ตนได้เรียบร้อย ไม่มีปัญหา ย่อมอยู่ดีมีสุขตามอัตภาพ
Em