ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค- ติดสนันป่ารา กา อรรถถภพระวีน มหาวรรค ตอน ๑ หน้าที่ 3
ในบทเหล่านนั้น กล่าวว่่า อรุเวลัย ได้แก่ที่เคนในใหญ่ อธิบาย
ว่า ที่กองทรายใหญ่อ. อีกประการหนึ่ง ทราย เรียกว่าอรุ. เขติค
เรียกว่าเวลา. และพึงเห็นความในบทนี้ อย่างนี้ว่า "ทรายที่ขาวนมา
เพราะเหตุที่ล่างเขตกัน ชื่ออรุเวลา"
"ได้ย่าว ในอดีตสมัน เมือพระพุทธเจ้ายังไม่เสด็จอุบัติ
กุลบุตรหนึ่งคนบวชเป็นคาบสอยที่ประเทศนั้น วันหนึ่งได้ประชุมกัน
ทำกิจว่ารัญไว้ "ธรรมคาถายกรรม วินิจกรรม เป็นของปราญแก่
ผู้อื่นได้ ฝามโนธรรม หาปรากฏไม่ เพราะฉะนั้น ผู้ใดศรีดาก
มาวิถีกหรือพยาบาทิวิต หรือลิงสาทิวิต คนอื่นที่จะโจมผู้นื่อนไม่อ
ไม่มี ผู้ฉันต้องโจทนด้วยตนเองแล้ว [๓] เอาห่อแห่งใบไม้ ขนทราย
มาเทีในที่นี้ ด้วยตั้งใจว่า "นีพิงเป็นนักธรรม" จำเดิมแต่นั้นมา
ผู้ใดศรีกลักเช่นนั้น ผู้นั้นอ่อนใช้ข้อแห่งไปไม่นรอยามเกลือในที่นั้น
ด้วยประการอย่างนี้ กองทรายในทีนี้ยังใหญ่อันดับ ภายหลัง
มา ประชุมชนในภายหลัง จึงได้แวดล้อมกองทรายใหญ่นั้นทำให้เป็น
เดียจสถาน
ข้าพเจ้าหมาเอกองทรายนี้กล่าวว่า ว่าว่า อรุเวลัย ได้
แก่ที่แดนใหญ อธิบายว่า ที่กองทรายใหญ๋หมายเอกองทรายนันเองกล่าวว่า อีกประการหนึ่ง ทราย เรียกว่าอรุ. เขตฉัน เรียกว่า
____________________________
๒. หรือว่าไปไม่สำรับน่อต ตามน้อยรรถก สุตคมุพาดา ที่ท่านว่ามาในบุ
มุคลดูกที่ปีว่า ปดฏปุญฺญาสวฏ---ปลิ่นจบปุนฺญสวฏ น่าจะเป็นอย่างนี้เรียกว่า กระทง คือเอาไปไม่นิ่มยามากลัดคลิดกันเป็นภาชนะใสของได้ ในโผนา ภาค ๒
หน้า ๑๓๓ แกว่า ปดฏปุญฺญาติ ปุญฺญปุญฺญู.