ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - ติดสมัญตำปาสทิจก อรรถถาคพระวินัยมหาวรรค ตอน ๑ หน้า 38
คือพึงสั่งว่า ยมน์ วาทามิ ต วาทิ เพื่อรับสรณะ. ลำดับนั้น
อุปชามายี่หรืออาจารย์พึงให้สรณะแก่ข้า โดยนิยมเป็นต้นว่า พุทธิ
สราณ คุวามิ ดังนี้ พึงให้ตามคำที่กล่าวแล้วอย่างไรก็ดี ไม่
พึงให้สบำดิตบ. ถ้าสับลำดับเสีย บทหนึ่งก็ยัง อักษรหนึ่งก็ยัง,
หรือให้ พุทธิส สรณึ เท่านั้น ถ้วน ๑ ครั้งแล้ว ภายหลังจึง
ให้สรณะนอกนี้อย่างละ ๑ ครั้ง, สรณะไม่จำกัดให้. ก็แลอง-
สัมปทาที่พระผู้มีพระภาคทรงห้ามสรณะคุมบูมในบทแล้ว ทรง
อนุญาตไว้ บริสุทธิ์ฝ่ายเดียวก็ควร. ส่วนสามเณรบรรพชารูปสุทธิ์
ทั้ง ๒ ฝ่ายก็ควร. บริสุทธิ์ฝ่ายเดียวไม่ควร; เพราะเหตุอัน ใน
อุปสัมปทา ถ้าอาจารย์ทำกรรมเว้นุณุตติโทษ และกรรมวางโทษ
แล้ว ก็กรรมเป็นอันถูกต้อง. ส่วนในบรรพชา ทั้งอาจารย์
อันตวาสัก ต้องว่าตรง ๑ เหล่า่ ไม่ให้เสียความพร้อมมูลแห่ง
ฐานกรณีของพุทธชนะทั้งหลาย มี่ พุ อักษรและ ๕ อักษรเป็นต้น.
ถ้าอาจารย์อาจได้ แต่อนันต์วาสิกไม่อาจ, หรืออนันต์วาสิกอาจ
แต่ถาอาจป์อาจ. หรือทั้ง ๒ ฝ่ายไม่อาจ, ไม่ควร. แต่อันทั้ง
สองฝ่ายอาจาข้อบังคับ ก็แล้วแต่ให้สรณะนาทีนั้น พึงให้วาบ
ที่มินิคิสดเป็นที่สุด ให้ติดเนื่องเป็นอันเดียวกันอย่างนี้ว่า พุทธ์
สรณ คุวามิ หรือพึงให้ว่านบทมี่ ม อักษรเป็นที่สุด ให้ขาด
ระยะกันอย่างนี้ว่า พุทธม สรณม คุวามิ ในอันถ тогдаกฎา
[๒๕] ท่านว่า "อนุตวาสิกพึงประกาศชื่อรับสรณะอย่างนี้ว่า
"๑" เป็นสำเนียงว่าอย่างสันสกฤต บัดนี้เราไม่ใช้แล้ว.