ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - คติสนั่นป่า สาทิกา อรณะพระวินัยมหาวรรณ ตอน ๑ - หน้าที่ 88
อัญญเดียรถี๋ย ซึ่งประกอบด้วยองค์หลานนี้ เมื่องค์เดียว ภิกษุไม่
ควรให้อุปสมบท คำทั้งปวงในฝ่ายขวา พึงทราบโดยความเพียร
จากที่กล่าวแล้ว
ข้อว่า เอ๋อ อาราธโก โช ภิกขุ เป็นตัน มีความว่า
กุลบุตรผู้อื่นเป็นอัญญเดียรถี๋ย ยังภิกษุทั้งหลายให้นดีให้ใจด้วย
การบำเพ็ญติวัตร ๒ ประการเหล่านี้ คือ เข้าบ้านไม่ผิดเวลา
กลับไม่สายมาก ความเป็นผู้ใหญ่ไม่มีหญิงแผยไขเสียงเป็นต้น เป็นโคร
ความเป็นผู้ชั้นในกิจกุทธ์หลายของเพื่อนพรหมจารี ความเป็นผู้มี
ฉันทะแรงกล้าในอุตุเทศเป็นต้น ความเป็นผู้มีแจ่มชื่น ในเพราะ
ติวายพวกเดียวกัน ความเป็นผู้มีใจไม่แช่มชื่น ในเพราะติวรรุดา-
ตรัยมีพระพุทธเจ้าเป็นต้น ความเป็นผู้มีใจไม่แช่มชื่น ในเพราะสรรเสริญคุณเดียรถี๋ยว ความเป็นผู้มีใจแช่มชื่น ในเพราะสรรเสริญคุณ
รัตนตรัยมีพระพุทธเจ้าเป็นต้น อย่างนี้ มาแล้ว ควรให้อุปสมบท
แต่ถ้าวัดอันหนึ่งทำลายเสีย แม่นโรงอุปสมบท พึงอยู่ริวกาส
ครบ ๔ เดือนอีก.[๕๕] เหมือนอย่างว่า สิกขาบทและสิกขาสมติ
อัญญเดียรถี๋ย ย่อมอธิให้กําณดาสิกขาและผู้เสียสิกขา ฉันใด วัตร
น้อยหนึ่งซึ่งจะพึงอื้อให้กุลบุตรผู้อื่นเป็นอัญญเดียรถี๋ยว ย่อมมี
ฉันนั้นหาได้ ที่แท้ ปรีวามซึเคยให้แล้วนั้นและ เป็นปรีวาของเขา
เพราะเหตุนี้ เขาพึงอยู่ริวกาสครบ ๔ เดือนอีก ถ้ากำลังอยู่ริวกาส
ยังอุปสมาบัติให้ติให้ในระหว่างไซร้ ธรรมดาผู้ได้โลฬาธรรมยง
กำไรได้เป็นนั่น จึงงไม่ควรให้อุปสมบทแท้ ต่อบำเพ็ญวัตรครบ ๔