วิจินฉัยบทที่ ๓ และ ๔ ตติยสมันตปาสาทิกา อรรถกถาพระวินัย มหาวรรค ตอน 1 หน้า 53
หน้าที่ 53 / 233

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาในบทนี้เป็นการวิเคราะห์ความหมายของพระนิพพานและความสงบที่เกิดจากการบรรลุธรรม โดยมีการกล่าวถึงวิทยาศาสตร์ของทุกข์และการฝึกฝนตนเอง ในการเข้าถึงความรู้ที่สูงส่งและการมีจิตใจที่สงบ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องทำตามความเจริญของตนเอง ไม่สามารถทำโดยผู้อื่นได้ ข้าพเจ้าไม่ยินดีในการประกอบพิธีกรรมที่ไม่มีความหมายต่อการปลดปล่อยจากทุกข์ ในขณะที่พระอรฺวาสกสปะได้กล่าวถึงการเป็นสาวกที่มีเป้าหมายในการบรรลุธรรมอย่างครบถ้วน โดยทุกคนสามารถเข้าถึงสภาวะนี้ได้เพียงในการปฏิบัติอย่างถูกต้องเท่านั้น

หัวข้อประเด็น

-การวิเคราะห์พระนิพพาน
-ความสำคัญของสาวก
-ธรรมะและความสงบ
-การบรรลุธรรมที่แท้จริง

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - ตดสนับตาปฺาอภาคา อรรถภูมิวีน มาหวรร ตอน ๓ - หน้าที่ 46 วิจินฉัยในกตามที่ ๓ :- บทว่า อต โกจรมี ความว่า ก็ทีนั้น... ในสิ่งใดเล่า ? บทที่ เหลือทีนั่นน วิจินฉัยในกตามที่ ๔ :- บทว่า ปติ เป็นตน มีความว่า ทางคือพระนิพพาน จัดว่า สงบ และมีความสงบเป็นสภาพ จัดว่าไม่มีมีกลิ่นอับเป็นเหตุชอบ ทุกข์ เพราะไม่มีกลิ่นทั้งหลายเข้าไปหอบอุกกาบวม จัดวาหงัง สัมได้ เพราะไม่มีเครื่องกลัวหวาดหวั่นมีจากเป็นตน จัดว่าปิด้องแม้นภาพ ซึ่งเป็นที่กล่าวสรรเสริญแห่งญัตทั้งหลาย เพราะไม่มีอยู่ในภาพทั้ง ๑ แล้ว จัดว่ามีอธิษฐานจะไม่เปรอเป็นอย่างอื่น เพราะไม่มีเกิดแก่ ตาย จัดว่าไม่ใช่ธรรมที่อ้นจะพึงะแนะให้ได้ เพราะต้องบรรลุตามระรตนเองเจริญแล้วเท่านั้น อันคนอื่นจะเป็นใครก็อาจจะพึงให้บรรลุไม่ได้ ข้าพเจ้าไม่ยินดีแล้วในการเช่นและการบุชา ก็เพราะเห็นทางเช่นนี้ พระอรฺวาสกสปะแสดงอย่างไร ? ด้วยคำว่า "ได้เห็นทางอังสนง" เป็นตนั่น ? แสดงว่า "ข้าพเจ้าได้ยินดีแล้วในการเช่นและการบุชา ซึ่งให้สำเร็จสมบัติในเทวโลกและมนุษยโลก ข้าพเจ้านั่นจะกล่าวอย่างไร ?" ครั้งนั้นแล้ว พระอรฺวาสกสปะผู้มีอายุ ครั้นประกาศความไม่มีดีในโลกทั้งปวงอย่างนี้ว่า "ใจของข้าพเจ้าไม่มีดีแล้วในเทวโลก และมนุษยโลก ชื่ออ" ดังนี้ แล้ว จึงประกาศชื่อคนเป็นสาวกของพระผู้พระภาคอย่างนี้ว่า "ข้าพเจ้าเป็นสาวก." ก็แต่ท่านแสดง
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More