ข้อความต้นฉบับในหน้า
การอ่านOCRของภาพนี้เผยให้เห็นข้อความภาษาไทยดังนี้:
"เรียกว่าตัศมันตปาสาทิกา พรรณนาความในมหาวรรค เรียกว่าตัศมันตปาสาทิกา พรรณนาความในอรรถวรรค เรียกว่าตัศมันตปาสาทิกา พรรณนาความในปริวรรดิ เรียกว่าปัญจสมันต-ปลาสาทิกา รวมเป็น ๕ คำวิธีเหมือนกัน อรรถกถาวัฒน์ ๕ คำวิธีนี้
เมื่อชำระลงพิมพ์ด้วยอักษรไทย ท่านแบ่งเป็น ๑ ภาค คือ ปฐม-สมันตปาสาทิกาเป็นภาคที่ ๑ ดูอีกสมันตปาสาทิกาเป็นภาคที่ ๒
ทั้ง ๒ ภาคใช้เป็นหลักสูตรประโยค ๓ ตัศมันต์ จดจด ปัญจสมันต-ปลาสาทิกา กำเป็นภาคที่ ๑ ใช้เป็นหลักสูตรประโยค ๔ ประกายใช้เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๖
เมื่อประกาศใช้สมันตปาสาทิกาภาคที่ ๒ เป็นหลักสูตรบาลี ประโยค ๕ แล้ว ขณะเข้าได้แปลอรรถกถาทั้งนี้เป็นภาษาไทยด้วย
เหตุ ๒ ประการ ตามที่ปรากฏในคำนำครั้งแรก คือ ประการที่ ๑
คนเองต้องการความรู้ ทั้งยังไม่เคยดู ประการที่ ๒ มีหน้าที่ช่วยผู้อื่นในความรู้ชนนี้ เพราะเป็นครู เพียงแต่ฤดูความรู้เฉพาะตัวและสอน
นักเรียนบาง คงไม่หวังถึง ความตั้งใจจะดูให้ถึงและให้สำเร็จ
ประโยชน์หนึ่งอันด้วย ช่วยให้ดูตามและสรุปดีขึ้นเป็นตอน ๆ
ชั้นเดิมไม่ใด้คิดจะพิมพ์ เพราะหนังสือมากต้องใช้ทรัพย์ คิดเพียงแต่จะพิมพ์ใดไว้ในคนนำ พอกนักเรียนในสำนักวัดภูเขาท์
ได้ดูเป็นแบบเรียนเท่านั้น ภายหลังพระศรีสุทโธ่ง ซึ่งในเวลานั้นยังเป็นพระมหาอุปสุูสับทรงเรื่องและเกี่ยวว่า ได้ใดพิมพ์สำเร็จ
ประโยชน์แก่นักเรียนบาสิประโยค ๕ ทั่วไป จึงได้แจ้งให้ผููโลคดี-ฃ
อักเสดา เจ้าของโรงพิมพ์ไทยทราบและแสดงประโยชน์ให้ฟัง ขุนโลคดีฯ พอใจ ปรารถนาจะรับพิมพ์ จึงได้ขออนุญาตพิมพ์ โดย
อธิบายหนังสือเก่าแก่สำหรับแจกนักเรียน จึงเป็นอนุญาตให้
ขุนโลคดีฯ พิมพ์ แต่มิได้มอบลิขสิทธิให้แก่วิชาคือ ฏ เพียงแต่อนุญาต
ให้พิมพ์เท่านั้น ข้อดีและ เป็นอันแก้ความสงสัยของบางท่านที่ว่า"
หมายเหตุ: เนื่องจากเป็นข้อความในภาษาไทยและเป็นข้อความในภาพ ดังนั้น OCR อาจไม่สมบูรณ์ 100% แต่พยายามให้เข้าใจและแปลความได้ใกล้เคียงกับต้นฉบับมากที่สุด