ประโบค- ตยสนผีตาปกา: พระวินัยมหาวรรด ตอน ๑ ตติยสมันตปาสาทิกา อรรถกถาพระวินัย มหาวรรค ตอน 1 หน้า 104
หน้าที่ 104 / 233

สรุปเนื้อหา

บทความนี้อธิบายการปฏิบัติในพระราชบัญชาที่เกี่ยวข้องกับการทำโทษ เช่น การเรียกรับผู้ที่ทำผิดและการลงทัณฑกรรม ผู้ถูกลงทัณฑกรรมไม่ควรให้บวช จนกว่าจะแผลเป็นปกติ นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึงกรณีที่จำเป็นสำหรับผู้ที่ได้รับอันตรายต่าง ๆ โดยมีขั้นตอนในการพิจารณา ก่อนที่จะได้รับการอนุญาตให้บวช

หัวข้อประเด็น

- พระวินัย
- การลงทัณฑกรรม
- การบวชในศาสนาพุทธ
- การจัดการความผิด

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโบค- ตยสนผีตาปกา อรรถถถพระวินัยมหาวรรด ตอน๑- หน้าที่ 97 เข้าในที่ใด ให้ฌาเสียในที่นั้น” ดังนี้ อย่างเดียวาหมิได้, โดย ที่แท้ดูใครหนึงซึ่งจะทำโครงรกรรมหรือความผิดในพระราชอย่งหนัก ชนิดคืนแล้วที่ไป, และพระราชบัญชาสั่งให้เขียนผู้รับลงในหนังสือ หรือไปลงว่า “ผู้มีชื่ออึ่ ใครพบเข้าในที่ใด พิงจับมาเสียในที่นั้น” หรือว่า “พิงตีอาวะมีมือและเท้าเป็นต้นของมันเสีย” หรือว่า “พิงให้นำมาซึ่งสินไหมมีประมาณเท่าใด” [๒๖] ผู้นี้ชื่อผู้รายซึ่งถูก เขียนไว้ ผู้รับไม่ได้ควรให้วช. ในคำว่า กลกสโก ตกลงทุกมิโม นี่ มีวิติจฉาว่า ผู้ใดไม่ ยอมทำการมีให้การและยอมรับใช้เป็นต้น จึงกลงอาชญา, ผู้นัน ไม่นว่า_ผู้ถููกลงทัณฑกรรม. ฝ่ายผู้ใครรับเก็บทรัพย์อย่าง โดยเป็น ช่วย หรือโดนประกันแล้วกินเสีย, เมื่อไม่สามารถจะให้ดังให้, จึงถูกเมินด้วยหวาดว่า “นี้แห ลงเป็นสินไหมของเจ้า” ผู้รับชื่อ ผู้ถูกเมินด้วยหวาด ถูกลงทันทัณฑกรรม. ก็เลยเขาอุถูกเมินด้วยหวาด หรือถูกด้วยไม่คอ่บเป็นต้นอย่างใดอย่างหนึ่งก็ตาย ลงกวาไง, แผล ยงสดอยู่เพียงใด. ไม่ควรให้บวชเพียงนั้น, ต่อกระทำแผลทั้งหลายให้ กลับเป็นปกติเล้วจึงควรให้วช. อึ่ง ถ้าผูถูกเขาทำร้ายด้วยเขาหรือด้วยอศอก หรือด้วยผล มะพร้าวและก้อนหินเป็นต้นแล้วปล่อยไป, และบวมโนในร่างกายของ ผู้นั้นยังปรากฏอยู่ ไม่ควรให้บวช. ผู้นั้นจะทำให้หายแล้ว เมื่อ บวมโนอย่างนั้นอารามไปแล้ว ควรให้บวช. ในคำว่า ลุกฺขนฺโถ ตกฺขนฺโถกมฺโม นี่ มีวิติจฉาว่า ข้อที่
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More