ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - คติสุนฺทปาสาทิกา อรรถกถาพระวินัย มหาวรรค ตอน ๑ - หน้าที่ 129
กรรมแล้ว จึงค่อยให้สัญญาบท เพื่อประโยชน์แก่ความดั่งอยู่ในสงวร
ต่อไป การดื่มน้ำเมาของเหล่าสามเณร เป็นจิตตะกะ จึงเป็นวัฏฎ
แห่งปนุวรฺค ความแปลกกันเท่านั้น.
ก็แล้วก็ฉันในอวัตถนาฏนะ พึงทราบดังนี้:-
ในอรรถกถาชื่ออรณฺณ ที่กล่าวว่า "สามเณรผู้กล่าวโทษแห่งพระ
พุทธเจ้า ด้วยอำนาจแห่งคำเป็นข้าศึกแก่พระคุณ เป็นดังว่า อรณ
สมุทสมุทโพธิ์ โอ ดี๋, แห่งพระธรรม ด้วยอำนาจเป็นข้าศึกแก่ธรรม-
คุณ เป็นดังว่า สาวกอัปาโล โอ ดี๋, แห่งพระสงฆ์ ด้วยอำนาจแห่งคำ
เป็นข้าศึกแก่สงฆ์เป็นดังว่า สุปลิโนโน โอ ดี๋, ได้แก่นิพนธ์า คือ
ติเตียนพระรัตนตรัย อันภิญญ์ทั้งหลายอาจารย์และอุปชาทายาเป็นต้น
พิพากษาโทษในการกล่าวโทษ ห้ามปรามเสียว่า "เธออย่าได้กล่าว
อย่างนั้น" ถ้าเธออภิญญห์หลายกว่ากว่าคำว่าถอยครั้งที่ ๑ ยังไม่ลง
เว้น, ภิกษุทั้งหลายพึงให้ฉันหายเสีย ด้วยกันภูมาสนา."
[๒๙] ส่วนในมหาอรรถกถาแจ้งว่า ถ้าเธออภิญญ์ทั้งหลาย
กว่ากว่าด้วยนั้น ยอมละลิทธ์นั้น, พึงให้ทัณฑมกรรมแล้ว
แสดงโทษส่วนเกิน. ถ้ายังไม่ยอมละ ย่อดีติอยยอยู่ยงอย่าง
นั้นเอง, พึงให้ฉันหายเสียด้วยลิงคานาสนา."
คำแห่งมหาอรรถกถานั้นชอบ. เพราะว่ามนานานี้เท่านั้น อัน
พระผู้มีพระภาคทรงประสงค์ในอธิบายนี้. มัยในสามเณรผู้นี้มิฉา-
ทิฏฐินี้แน่. อันสามเณรผู้มีบริวารสดฺสดํทิฏฺฐิและอุเจททิฏฺฐิ
ชนิดใดชนิดหนึ่ง, ถ้าเธออภิญญ์ทั้งหลายอาจารย์เป็นต้นท่านก็เตือนอยู่