ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - คติสมุนปาสตร์กี กรรมวาระพระวินัยมหาวรรค ตอน ๑ - หน้าที่ 143
สองบทว่า วิสุทธิมรรค มีความว่า กิฎฐันติ ด้วยอานาจ
ความกลัว ละสมสัญญาเสีย ได้กระทำเสียงดังผิดครูป
สองบทว่า คุรุมุข ฎุตต คำว่า คุรุม โบ อุตต
บทนันท่านมิได้ทำการลบ อ ธิษฐานกล่าวไว้ ความสังข์บในคีนี้ ผู้
ศึกษาพึงทราบดังว่า "ท่านทั้งหลายแหละ เป็นนาค ชื่อเป็นผู้มีธรรม
ไม่อจงงาม คือ ไม่เป็นผู้มีธรรมอค้นงามในธรรมวินัยนี้ เพราะ
เป็นผู้ไม่ควรแก่การวินิจฉัยและมรรคผล."
บทว่า สตายา ได้แก่ นางนาคนั่นเอง แต่ว่า เมื่อใด
นาคัน เสพเมนคุณด้วยชาตอื่น ต่างโดยชนิดมีผู้เป็นมนุษย์เป็นต้น,
เมื่อฉันย้อมเป็นเหมือนเทพบุตร ส่วนคำว่า ปัจจัยสองอย่างในพระ
บาลีนี้ พระผู้พระภาคตรัสแล้ว ด้วยอำนาจแห่งความรู้ประกฏ
ตามสภาพเนื่อง ๆ ในประวัติ ก. และกรรมซึ่งปรากฏตามสภาพ
ย่อมมีแก่นาคใน ๕ กาล คือ เวลาปฏิสนธิหนึ่ง เวลาออกคราบหนึ่ง
เวลาที่เสพเมนคุณด้วยนาคาชาติของตน (มาชาติสมกัน) หนึ่ง เวล
ที่ว่างใจยังลงสูมาหลับหนึ่ง เวลาหนึ่ง.
ในคำว่า ติฎฐานุคโต ภิกขุวา เป็นดังนี้ มีวิริฉันว่า
จะเป็นนาค หรือจะเป็นสัตว์พิเศษผู้ใดผู้นั้นมีสมรรถนาพเป็นต้นกี
ตามที ผู้ใดผู้หนึ่ ง [๓๓] ซึ่งเป็นมนุษย์ชาติ โดยที่สุดแม้ว่าทั้งสังกาทเวร
บรรดามี ทั้งหมดเทวา พึงารบว่า เป็นคริฉาน ในอรรถนี้
ผู้่นอนภิญญาทั้งหลายไม่ควรให้อุปสมบท ไม่ควรให้อบรมพา, แม้
อุปสมบทแล้ว ก็ครอให้จบายายเสีย.
ตรงฉากตัวดถูกา จบ.