การอนุโมทนาในพระพุทธศาสนา ตติยสมันตปาสาทิกา อรรถกถาพระวินัย มหาวรรค ตอน 1 หน้า 216
หน้าที่ 216 / 233

สรุปเนื้อหา

บทความนี้กล่าวถึงการอนุโมทนาในพระพุทธศาสนา ที่กล่าวถึงการขออนุญาตพระสงฆ์ในการวิจารณ์หรือพูดคุยในวัดหรือชุมชน นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงแนวทางและข้อปฏิบัติต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสอดคล้องกับหลักธรรมของศาสนา ที่มุ่งหวังที่จะสร้างสิ่งแวดล้อมที่ให้เกียรติแก่พระสงฆ์และชุมชน.

หัวข้อประเด็น

-การอนุโมทนา
-พระสงฆ์เถระ
-ศีลธรรมในพระพุทธศาสนา
-การขออนุญาต

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - คิดสนั่นป่า สักกา อรรถภาษพระวิชัย มหาราช ตอน ๑ - หน้า 209 แม้ในการอนุโมทนาเป็นต้นในละแวกบ้าน ก็ยังนี่แหละ ถ้าว่า พระสงฆ์เถระอนุญาตว่า "เธอพูดกล่าวในวัดที่อยู่หรือในละแวกบ้าน เกิด ไม่ต้องบอกเล่าฉันเลย" เป็นอันได้ข้ออัง สมควรกล่าวได้ใน ที่ทั่งปวง แม้ม่อะจะทำการสายยายเล่า ก็ดยงขอ โอกาสพระเถระ เหมือนกัน. เมื่อออเกอองคำหนึ่งแล้วกำลังสายยาย องค์อันม อีก, ก็คือจะต้องขอ โอกาสอีก ย่อมไม่ม. หาว่า เมื่อผูกใจว่า "เราจักพัก" แล้วหยุดอยู่ พระเถระมา, เมื่อเริ่มก็ต้องขอ โอกาส แม้เมื่อกำลังสายยายธรรมที่ต้นรำไวแล้ว แต่เมื่อพระสงฆเถระยังมีได้ มา ณนี่แหละ. [๑๔๗] พระสงฆเถระองค์หนึ่งอนุญาตแล้วว่า "ไม่ ต้องขอ โอกาสฉันลละ ท่องตามสบายเถิด" ดังนี้ สมควรสายยายตาม สบาย แต่เมื่อพระสงฆเถระคืนมา ต้องขอ โอกาสท่านก่อนจึงสายยาย. ข้อว่า อุดตุนา วา อุดตาน สมุนินฺทโทพิ มีความว่า พิง สมมติตนด้วยตนเองก็ได้. แต่เมื่อจะถาม ต้องแสดงูบริษัท, ถ้า อุปทะวไม่มีแก่นน, พิงถามวิบู. ข้อว่า กตปิ โอกาส ปุคคลู ตุสิตตา มีความว่า (เรา ตลากดอนุญาตให้ ก็ยก) เมื่อฉันขอ โอกาสแล้ว ต้องพิจารณา อย่างนี้ว่า "อุปะวะจากบุคคลนี้ จ จะมีแก่เรา, หรือไม่มีหนอ?" ดังนี้ (แล้วจึงโจทย์ด้วยอาบัติ). ข้อว่า ปุคคลู ตุสิตตา โอกาส ดกุลฯ ก็มีความว่า เรายกาดด อนุญาตให้กูพิจารณาอย่างนี้ว่า "ผู้ที่จะกล่าวอาบัติเฉพาะที่เป็นจริง ๑. พระบาวินยเป็น อุดตนา ว. แต่ดูรักา วา น่าอธิบว่า.
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More