ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - คติสมเด็จปาฏิธาน อรรถถกพระวินัยมหาวรรค ตอน ๑ - หน้าที่ 39
อภัย ภนฺต พุทธบูรจติ ยาวชีว พุทธิ สรณ คงฉามิ ดังนี้.
คำนั้นไม่มีแม้ในอรรถถกเดียว ทั้งในพระบาลีก็ไม่กล่าวไว้ เป็นแต่เพียงความชอบใจของพระอาจารย์หล่านั้น เพราะฉะนั้น ไม่ควรถือเอา แก่จริง เมื่อไม่อย่างนั้น สรณะจะกำเริบก็หาได้.
ข้อว่า อนุชามามิ ภิกขเว อิมงฺมิ ติตฺ สรณฺคมนาหิน ปุพฺพพุชฺช อุปสมบท มีความว่า เราอนุญาตบรรพชาและอุปสมบทด้วยใดสรณคมน์เหล่านั้น ซึ่งว่าหดอดทั้ง ๒ ฝ่าย ครบ ๓ ครั้ง อย่างนี้ว่า พุทธา สรณฺ คุญามิ เป็นดังนี้. ในบรรพชาและอุปสมบททั้ง ๒ นั้น อุปสมบท พระผู้มีพระภาคทรงห้ามเสียข้างหน้าแล้ว เพราะฉะนั้น บรรพชานั้น จึงไม่ขึ้นด้วยมาตราวาส สรณะเท่านั้น. ส่วนบรรพทามอนุญาตเฉพาะไว้ข้างนอกว่า 'ภิญฺทังหลาย เราอนุญาตตามธรรมบรรพาชาติใดครสรณคมนั้นเหล่า' เพราะฉะนั้น ถึงในบัดนี้ บรรพชานั้น ย่อมขึ้นด้วยมาตราวาสเท่านั้น. จริงอยู่ กุลบุตรเป็นอันตั้งอยู่ในภูมิแห่งสามเณร ด้วยอาการเพียงเท่านั้น. และถ้าสมณนั้นเป็นผู้ปฏิญาณ มีศีลแห่งคนลาลา, ลักษณนั้น พึงแสดงสิกขาบททั้งหลายแก่เธอในทันทีเดียว. แสดงอย่างไร? แสดงเหมือนที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงแล้ว. จริงอยู่ พระผู้มีพระภาคได้รัสด ไว้อย่างว่า "ภิญฺทังหลายเรอนุญาตสิกขาบท ๑๐ แกลำแสนหลังหลาย และอนุญาตเพื่อให้สามารถศึกษาในสิกขาบท ๑๐ เหล่านั้น คือ :-
เว้นจากทำสวัสดิ์ชีวิตให้ตกลงไป ๑.
เว้นจากถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขาไม่ได้ ๑.