ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - คติสนับสนับกิจกรรมพระวินัยมหาวรรค ตอน ๑ - หน้าที่ 107
นิสัยแล้วพึงปรารถนา ข้าพเจ้ากล่าวแล้วในวรรณนานแห่งกุฏิในวาท-สิกขาบทธ บรรทัดนี้พึงทราบว่าเป็นอัปปสุตบุคคล เพราะข้อที่สุดนั้นไม่มี และเป็นเหตุสุดบุคคล เพราะข้อที่สุดนั้นมีคำที่เหลือมีดังกล่าวแล้ว นั่นแล.
[ธาหลวงวัตถถูกา]
ในคำว่า “ยน กิปลวดดู เตน จาริก ฉกามิ” นี้ พึงทราบอนุญาติถูกา จัดต่อไปนี้ :-
ได้ยินว่า จำเดิมแต่วันทีพระโพธิสัตว์ออกอภิเนยกรมณ์ พระเจ้าสุทโธนมหาราชทรงเมียพระโสดาบัณฑ์อยู่ว่า “ลูก เราออกไปด้วยหมายใจว่า จักเป็นพระพุทธเจ้า เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว หรือยังหนอ?” ท่าว่าเธอกรงสงบการบำเพ็ญเพียร ความตรัสรู้ของพระผู้พระภาค ได้ทรงดำรงว่า “ได้ยินว่าบัดนี้ลูกเราอาศัยกรุงราชคฤห์อยู่ จึงรำรัสส่งอามาต่อนั้นว่า “เราแก่เผ้าแล้วนะพ่อ ดีละ เจ้าจงแสดงบุร แก่เราทั้งที่ยังเป็นอยู่” เข้ารับสารแล้ว มีธรพนคนเป็นบริวาร ไปสู่กรุงราชคฤฑ ถอยหลังจนพระภาคพระผู้พระภาคแล้วนั้น ลำดับนั้น พระผู้พระภาคตรัสธรรมดาแก่เขา ๒๓ เขาเลื่อนใสลูกขอ บรรพชาและอุปสมบทที่นั่น พระผู้พระภาคให้เขาอุปสมบทด้วย เศกิจกอบอุปปสัมปทา, ภิกษุนั้นกับทั้งบริวารพระอรหัตแล้ว ได้อยู่สวรรคิเดที่ผลสมาบัติในที่นั้นเอง พระราขทรงส่งอุตามนี้ไปอีกแปลคนโดยอุบายนั้นแล. แม้ทุเทเหล่านี้ทั้งหมดกับทั้งบริษัท ได้