คติสมัยปุกลาที่กิ การกเทวินิยม มหารวรรค ตอน ๑ ตติยสมันตปาสาทิกา อรรถกถาพระวินัย มหาวรรค ตอน 1 หน้า 217
หน้าที่ 217 / 233

สรุปเนื้อหา

ในบทความนี้มีการพูดถึงคติสมัยปุกลาที่เกี่ยวกับการกเทวินิยม โดยเสนอแนวคิดเกี่ยวกับกรรมและธรรมว่ามีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของเราอย่างไร มุ่งเน้นไปที่บทบาทของพระเถระในกระบวนการเรียนรู้และการปฏิบัติในศาสนา โดยชี้ให้เห็นถึงวิธีการเชิญกิจและการมีพระเถระเป็นเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการเข้าใจและมีความรู้ในหลักธรรมที่ถูกต้อง.

หัวข้อประเด็น

-คติการกเทวินิยม
-บทบาทของกรรม
-การทำความเข้าใจพระธรรม
-พระเถระในพระพุทธศาสนา
-การปฏิบัติธรรม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - คติสมัยปุกลาที่กิ การกเทวินิยม มหารวรรค ตอน ๑ - หน้าที่ 210 เท่านั้น หรือจะกล่าวที่ไม่เป็นจริงหนอ" ดังนี้แล้ว จึงควรให้โอกาส บทว่า ปรมุททา ได้แก่เราทั้งหลาย...ก่อน. บทว่า ปฏิกอา ได้แต่ ก่อนว่ามีสุข. กรรมไม่เป็นธรรม มีนัยดังกล่าวแล้วนั้นแส. บทว่า ปฏิกอิโกสิกุ ได้แก่ เพื่อห้าม. ข้อว่า ทิฏฐิมิปิ อาจวิญญู มีความว่า “ เราตาดาคอนุญาต ให้กิจุประการความเห็นของตน ในคำนี้กิจอิอยอื่ระนังน้อยจาก "กรรม นี้ ไม่เป็นธรรม นันไมชอบใจข้าพเจ้า." คำว่า ๔ รูป ๕ รูป เป็นต้น พระผู้พระกาถครัส เพื่ออ้งการ มิให้มัวแต่ตายแก่กรรมเหล่านั้น. ข้อว่า สตญจิจ ฉ น สาวิตติ มีความว่า แก่ลังสอดค่อย ๆ ด้วยตั้งใจว่า “กิจุเหล่าสั้นจะไม่ได้ยินด้วยประการใด, เราจักสวาด ด้วยประการนั้น.” บทว่า เถริกอิอ มีความว่า (เราตาดอตอนูญาตปฏิญฺโญ) ให้มี พระเถระเป็นใหญ่ อธิบายว่า เพื่อเป็นกิจ เนื่องด้วยพระเถระ. บำลึก เถริยู ก็แปลว่า “ให้มีพระเถระเป็นเจ้าหน้าที่.” เพราะเหตุนี้ พระเถระพึงสอดเองได้ พึงเชิญกิจอืน ๆ ได้. ในอธิบายว่ากิจอาอัญเชิญปฏิญฺโญ วีธีเชิญ มันย้อนคำว่า แล้วในการอัญเชิญธรรมนันแส. วิธฉฉัในข้อว่า โส น ชานาติ อูโปล๊ว า เป็นอาคัดนี้ :- พระเถระนั้น ไม่รู้จักอัปผส ๓ อย่า ง โดยต่างด้วยขาดทุกสิกุโบสถ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More