ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - คติสมัยปุกลาที่กิ การกเทวินิยม มหารวรรค ตอน ๑ - หน้าที่ 210
เท่านั้น หรือจะกล่าวที่ไม่เป็นจริงหนอ" ดังนี้แล้ว จึงควรให้โอกาส
บทว่า ปรมุททา ได้แก่เราทั้งหลาย...ก่อน.
บทว่า ปฏิกอา ได้แต่ ก่อนว่ามีสุข. กรรมไม่เป็นธรรม
มีนัยดังกล่าวแล้วนั้นแส.
บทว่า ปฏิกอิโกสิกุ ได้แก่ เพื่อห้าม.
ข้อว่า ทิฏฐิมิปิ อาจวิญญู มีความว่า “ เราตาดาคอนุญาต
ให้กิจุประการความเห็นของตน ในคำนี้กิจอิอยอื่ระนังน้อยจาก "กรรม
นี้ ไม่เป็นธรรม นันไมชอบใจข้าพเจ้า."
คำว่า ๔ รูป ๕ รูป เป็นต้น พระผู้พระกาถครัส เพื่ออ้งการ
มิให้มัวแต่ตายแก่กรรมเหล่านั้น.
ข้อว่า สตญจิจ ฉ น สาวิตติ มีความว่า แก่ลังสอดค่อย ๆ
ด้วยตั้งใจว่า “กิจุเหล่าสั้นจะไม่ได้ยินด้วยประการใด, เราจักสวาด
ด้วยประการนั้น.”
บทว่า เถริกอิอ มีความว่า (เราตาดอตอนูญาตปฏิญฺโญ) ให้มี
พระเถระเป็นใหญ่ อธิบายว่า เพื่อเป็นกิจ เนื่องด้วยพระเถระ.
บำลึก เถริยู ก็แปลว่า “ให้มีพระเถระเป็นเจ้าหน้าที่.”
เพราะเหตุนี้ พระเถระพึงสอดเองได้ พึงเชิญกิจอืน ๆ ได้.
ในอธิบายว่ากิจอาอัญเชิญปฏิญฺโญ วีธีเชิญ มันย้อนคำว่า
แล้วในการอัญเชิญธรรมนันแส.
วิธฉฉัในข้อว่า โส น ชานาติ อูโปล๊ว า เป็นอาคัดนี้ :-
พระเถระนั้น ไม่รู้จักอัปผส ๓ อย่า ง โดยต่างด้วยขาดทุกสิกุโบสถ