ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - พระภิญโญจริต - ภาค ๖ - หน้าที่ 138
[ พระองค์ทรงเปิดโลก ]
พระเดชพระคุณว่า "ดีละ พระเจ้า" แล้วได้บอกตามรับสั่ง
พระศาสดาจำพระนายวาระนามว่า ตรัสบอกแก่ท้าวสังกะว่า
"มหาบพิช อาตมภาพก็อวไปสู่มนุษย์" ท้าวสังกะทรงรีบตื่นขึ้นได้
๑ ชนิด คือ บันใดทองคำ บันใดแก้วมณี บันใดเงิน. เงินบันใด
เหล่านั้นตั้งอยู่แล้วที่ประตูสังกะสานคร หัวบันใดเหล่านั่น ตั้งอยู่แล้วที่
ยอดเขาสินธ์ ใบบันใดเหล่านั้น บันใดทองได้เป็นบ้างเมืองขาว เพื่อ
พวกเทวดา บันใดเงิน ได้บ้างเมืองซ้ายเพื่อมาทรหมทั้งหมดหลาย
บันใดแก้วมณีได้บ้างในท่ามกลาง เพื่อพระเทคาด คณะคาดประทับ
ยืนอยู่บนยอดเขาสินธ์ ทรงทำมาทปฏิกรัยในกาลที่เสด็จลงจากเทว-
โลก ทรงแสดงดูงบนแล้ว สถานที่องค์พระองค์ทรงแสดงแสดงที่หลาย
ได้มิ้นเป็นอันเดียวกันจนถึงพรหมโลก; ทรงแสดงดูบ้างลา สถานที่อื่น
พระองค์ทรงแสดงดูแล้วได้มีเนินเป็นอันเดียวกันจนถึงอาวดี; ทรงแสดง
ทิศใหญ่และทิศเที่ยงทั้งหลาย, อัครวาลหลายแสน ได้มีเนินเป็นอันเดียว
กัน. เทวดาเห็นพวกมนุษย์ แม้พวกมนุษย์ก็เห็นพวกเทวดา. พวกเทวดา
และมนุษย์ตั้งหลาย ต่างกันกันแล้วแหพะหน้าที่เดียว. พระผู้มีพระภาค
ทรงเปล่งพระฉัพพินธรังสีไปแล้ว มนุษย์ในบริษัทนี้มีปริมาณตาล
๑๖ โยนีแม้คนหนึ่ง เมื่อแสดงรีวิวของพระพุทธเจ้าในวันนั้นแล้ว ชื่อ
ว่าไม่ปรารถนาความเป็นพระพทธเจ้า มีได้เลย. พวกเทวดาแบ่ง
ทางบันใดทอง, พวกมหารหมายลงทางบันใดเงิน; พระสัมมาสัม-
พุทธเจ้า เสลดลงทางบันใดแก้วมณี เทพบุตรนักฟ้อนชื่อปัญจลีสะ