ข้อความต้นฉบับในหน้า
1.1.4 ในทรรศนะของพระยาอนุมานราชธน ให้ความหมายว่า ศาสนา คือ ความเชื่อ
ซึ่งแสดงออกมาให้ปรากฏเห็นเป็นกิริยาอาการของผู้เลื่อมใส ว่ามีความเคารพเกรงกลัว ซึ่ง
อำนาจอันอยู่เหนือโลกหรือพระเจ้า ซึ่งบอกให้ผู้เชื่อรู้ได้ด้วยปัญญา ความรู้สึกเกิดขึ้นเองโดย
สัญชาตญาณ ว่าต้องมีอยู่เป็นรูปร่างอย่างใดอย่างหนึ่งและต้องเป็นผู้สร้าง และเป็นผู้กำหนด
วิถีชีวิตของมนุษย์ให้มีอยู่ เป็นอยู่ กล่าวกันง่ายๆ ศาสนา คือ การบูชาพระเจ้า ผู้ซึ่งมีทิพย
อำนาจอยู่เหนือธรรมชาติด้วยความเคารพกลัวเกรง
1.1.5 ในทรรศนะของหลวงวิจิตรวาทการ ให้ความหมายว่า ศาสนาเป็นเรื่องที่ถือว่า
มีความศักดิ์สิทธิ์ มีคำสอนทางจรรยา มีศาสดา มีคณะบุคคลที่รักษาความศักดิ์สิทธิ์และคำสอนไว้
เช่น พระหรือนักบวช และมีการกวดขันเรื่องความจงรักภักดี
1.1.6 ในทรรศนะของ Emile Durkheim ให้ความหมายว่า ศาสนา คือ ระบบรวมว่า
ด้วยความเชื่อและการปฏิบัติเพื่อความสัมพันธ์ในสิ่งศักดิ์สิทธิ์
1.1.7 ในทรรศนะของ A.C Bouget ให้ความหมายว่า ศาสนา หมายถึง ความสัมพันธ์
อันแนบแน่นระหว่างมนุษย์กับสิ่งที่มิใช่มนุษย์ คือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์เหนือธรรมชาติ สิ่งที่สามารถ
ดำรงอยู่ได้ด้วยตนเองหรือพระเจ้าแต่สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการมากกว่าเกี่ยวข้องกับบุคคล
ศาสนา คือ หนทางอย่างหนึ่งซึ่งแสดงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับจุดมุ่งหมาย จุดประสงค์
ความเชื่อของเขา
จากทรรศนะต่าง ๆ ที่กล่าวมาทั้งหมดในตอนต้นนั้น สามารถสรุปให้ครอบคลุมความ
หมายของศาสนาทั้งที่เป็นเทวนิยมและอเทวนิยมได้ว่า ศาสนา คือ คำสอนที่ศาสดานำมาเผยแผ่
สั่งสอน แจกแจง แสดงให้มนุษย์ละเว้นจากความชั่ว กระทำแต่ความดี เพื่อประสบสันติสุขใน
ชีวิตทั้งในระดับธรรมดาสามัญและความสุขสงบนิรันดร ซึ่งมนุษย์ยึดถือปฏิบัติตามคำสอนนั้น
ด้วยความเคารพเลื่อมใสและศรัทธา คำสอนดังกล่าวนี้ จะมีลักษณะเป็นสัจธรรมที่มีอยู่ใน
ธรรมชาติแล้วศาสดาเป็นผู้ค้นพบ หรือจะเป็นโองการที่ศาสดารับมาจากพระเจ้าก็ได้
อนุมานราชธน, พระยา, ประวัติศาสตร์โลกสมัยโบราณ, 2515 หน้า 15.
2 วิจิตรวาทการ, หลวง, ศาสนาสากล, 2510 หน้า 1-2.
* Emile Durkheim. The Elementary Form of The Religious Life, 1964 P. 47.
* A.C. Bouget. Comparative Religion, 1954 P.12.
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับศาสนา
DOUG