การศึกษาและศรัทธาในสมัยอุปนิษัท DF 404 ศาสนศึกษา หน้า 71
หน้าที่ 71 / 481

สรุปเนื้อหา

ในยุคกลียุคมนุษย์ไม่สนใจศีลธรรมและตกเป็นทาสของราคะเป็นที่ไม่ดี ส่วนประชาชนทุกคนต้องส่งบุตรไปศึกษาในสถาบันของพราหมณ์ซึ่งมีพิธีเสกเป่าและการเข้าสู่การศึกษาใหม่ที่เรียกว่า ทวิชะ. สมัยอุปนิษัทมีการค้นหาทางหลุดพ้นและเกิดเจ้าลัทธิที่มีความเห็นแตกต่างกัน 4 พวก เพื่อให้เข้าใจถึงผลแห่งญาณ การทำพลีบูชายัญ การบำเพ็ญตบะ และการพึ่งพาตนเอง. ในตอนนี้เกิดนักคิดที่มีชื่อเสียงจากการแบ่งแยกคิดเช่น ปรัชญาอุปนิษัท ศาสนาเชน และศาสนาพุทธที่มีแนวคิดขัดแย้งกับแนวคิดเดิมและมีการสร้างคัมภีร์อุปนิษัทเพื่อศึกษาและเข้าใจถึงโมกษะ ซึ่งจะมีบทบาทสืบต่อจากพระเวท.

หัวข้อประเด็น

-กลียุค
-สัจธรรม
-ศีลธรรม
-การศึกษาในสมัยอุปนิษัท
-การค้นหาทางหลุดพ้น
-เจ้าลัทธิ
-ผลแห่งญาณ
-การบำเพ็ญฌาน

ข้อความต้นฉบับในหน้า

รับความสนใจจากมนุษย์ 4. กลียุค (ยุคสุดท้าย) สัจธรรมเหลือเพียง 1 ใน 4 ของยุคแรก มนุษย์ไม่สนใจเรื่อง ศีลธรรม ตกเป็นทาสของราคะ โทสะ โมหะ ประชาชนที่อยู่ในวรรณะกษัตริย์ พราหมณ์ และแพศย์ ทุกคนต้องส่งบุตรเข้ารับการ ศึกษาในสถานศึกษาแห่งใดแห่งหนึ่งของพราหมณ์ก่อนเริ่มการศึกษา นักบวชพราหมณ์จะทำ พิธีเสกเป่ามนตร์และคล้องเส้นด้ายมงคลศักดิ์สิทธิ์ เรียกว่า สายธุรำ เฉวียงบ่า พิธีนี้เรียกว่า ยัชโญปวีต ผู้ผ่านการทำพิธีดังกล่าวนี้แล้วถือว่าเป็นผู้เกิดใหม่อีกครั้งหนึ่ง เรียกว่า ทวิชะ แปลว่า ผู้เกิดสองครั้ง 3.1.5 สมัยอุปนิษัท ในสมัยนี้เป็นช่วงระยะเวลาของการพยายามค้นหาทางหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด ทำให้เกิดเจ้าลัทธิที่มีความเห็นแตกต่างกันเป็น 4 พวกคือ พวกที่ 1 เป็นพวกที่เชื่อในผลแห่งญาณ คือ ความรู้แจ้ง พวกที่ 2 เป็นพวกที่เชื่อในผลแห่งการทำพลีบูชายัญ พวกที่ 3 เป็นพวกที่เชื่อในผลของการบำเพ็ญตบะ ทรมานกาย-ใจ พวกที่ 4 เป็นพวกที่เชื่อว่าการปฏิบัติให้หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดนั้น ต้องพึ่ง ตัวเอง หาใช่การสวดมนต์อ้อนวอน บูชาเทพเจ้า และสิ่งที่อยู่ในโลกนี้ล้วนเป็นมายาสกัดกั้นจิต ไม่ให้เข้าถึงจุดหมายปลายทางซึ่งเป็นนามธรรม ดังนั้นการปฏิบัติอย่างเข้มงวดเพื่อละโลกียวิสัย สามารถกระทำด้วยการบำเพ็ญตบะและการบำเพ็ญฌาน ซึ่งอาจจะปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือ ทำไปพร้อม ๆ กันทั้งสองอย่าง ทำให้เกิดนักบวช 3 พวกคือ “ปริพาชก” แปลว่า ผู้เร่ร่อน “ภิกขุ” แปลว่า ผู้ขอ และ “สันยาสี” แปลว่า ผู้สละ สำหรับพวกที่เชื่อในผลแห่งญาน (คือปัญญาซึ่งทำให้เกิดการรู้แจ้ง) ได้เกิดนักคิดที่มีชื่อเสียง 3 พวก คือ ปรัชญาอุปนิษัทของพราหมณ์ ศาสนาเชนของมหาวีระ และศาสนาพุทธของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พวกพราหมณ์ในลัทธิอุปนิษัท ได้สร้างคัมภีร์อุปนิษัทว่าด้วยปรมาตมัน และการเข้าถึงโมกษะ คัมภีร์อุปนิษัทนี้ได้ใช้เป็นตำราเรียนภาคสุดท้ายต่อจากพระเวท เรียกชื่อ อีกอย่างหนึ่งว่า เวทานตะ แปลว่า ที่สุดแห่งพระเวท แม้ว่าอุปนิษัทจะเป็นส่วนหนึ่งของพระเวท แต่ในทางปรัชญานั้น อุปนิษัทต่างจากพระเวท 56 DOU ศ า ส น ศึ ก ษ า
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More