ประวัติศาสตร์และการเจริญเติบโตของศาสนาคริสต์ DF 404 ศาสนศึกษา หน้า 335
หน้าที่ 335 / 481

สรุปเนื้อหา

ศาสนาคริสต์เริ่มต้นจากการเผยแพร่ของพระเยซูและสาวก แม้ว่าในช่วงแรกจะมีการขัดขวางและถูกทำลาย แต่หลังจากการสิ้นชีพของพระเยซู ศาสนาคริสต์กลับเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อพระเจ้าคอนสแตนตินขึ้นเป็นผู้สนับสนุนอย่างแท้จริงต่อศาสนาคริสต์. การออกกฎหมายมิลานและการยกย่องสันตะปาปาในฐานะผู้มีอำนาจเหนือศาสนจักรในยุโรปทำให้ศาสนาคริสต์เติบโตอย่างมากมายจากศาสนาประจำชาติอิตาลีไปยังทวีปยุโรปและอเมริกา. อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2060 ศาสนาคริสต์เริ่มเผชิญปัญหาภายในจากการเคลื่อนไหวของมาร์ติน ลูเธอร์ ซึ่งท้าทายระบบและการกระทำที่ไม่เหมาะสมของสันตะปาปา.

หัวข้อประเด็น

-พระเยซูและการเริ่มต้นของศาสนาคริสต์
-บทบาทของพระเจ้าคอนสแตนติน
-การออกกฎหมายมิลาน
-การเติบโตของศาสนาคริสต์ในยุโรป
-การมีอำนาจของสันตะปาปา
-มาร์ติน ลูเธอร์และการปฏิรูป

ข้อความต้นฉบับในหน้า

โดยเซนต์ปอล เป็นผู้ตั้งขึ้น เพราะฉะนั้นศาสนาคริสต์จึงเกิดขึ้นเพราะเหตุการณ์บังคับให้จำ ะ ต้องตึงศาสนา ศาสนาคริสต์ในสมัยที่พระเยซูยังมีชีวิตอยู่ เจริญเติบโตแพร่หลายไปได้น้อยมากเพราะมี ผู้คอยขัดขวางทำลายล้าง พระเยซูเอง ก็มีเวลาเป็นศาสดาเพียง 3 ปีเท่านั้นก็สิ้นชีพเพราะถูก ตรึงไม้กางเขนดังกล่าวมาแล้ว ศาสนาคริสต์เพิ่งมาเจริญเติบโตหลังจากพระเยซูสิ้นชีพแล้ว โดยการเผยแพร่ศาสนาอย่างจริงจังของเหล่าสาวกและศาสนิก แล้วความสำเร็จก็มาถึง เมื่อพระเจ้าคอนสแตนตินทรงเลื่อมใส ทรงให้ความอุปถัมภ์ศาสนาคริสต์ทุกอย่าง จนได้ นามว่าพระเจ้าอโศกแห่งศาสนาคริสต์ เช่น ทรงสร้างโบสถ์เซนต์ปีเตอร์หลังแรกถวาย ทรงพระราชทานที่ดินและทรัพย์สินมากมายให้ศาสนาคริสต์ ทรงออกกฎหมายมิลานใน ปีพ.ศ. 856 ให้วังวาติกันเป็นรัฐอิสระปกครองตนเอง จัดเก็บภาษีเอง ไม่ขึ้นกับบ้านเมือง ทางบ้านเมืองจะเข้าไปแทรกแซงในศาสนจักรไม่ได้ ให้สันตะปาปามีอำนาจเท่าราชา และทรง ยกย่องสันตะปาปาให้มีอำนาจเหนือศาสนจักรทั้งปวง ทรงจัดประชุมสันนิบาตศาสนาคริสต์ ทั้งหมดขึ้นเป็นครั้งแรก ทรงนำไม้กางเขนมาเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาคริสต์ และในปี พ.ศ. 868 ทรงออกกฎหมายให้ทุกคนมีศรัทธาทางการ คือนับถือศาสนาคริสต์เท่านั้นจึงจะถูกต้อง ดังนั้น ตั้งแต่ พ.ศ. 868-1597 ศาสนาคริสต์จึงได้เจริญเติบโตขนานใหญ่ จากศาสนาประจำชาติของ ประเทศอิตาลีกลายมาเป็นศาสนาประจำชาติของทุกประเทศในทวีปยุโรป และต่อมาได้ขยาย ไปยังประเทศต่างๆ ในทวีปอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ และทวีปออสเตรเลียด้วย และตั้งแต่ พ.ศ. 1597-2060 สันตะปาปาหรือโป๊ปได้มีอำนาจสูงสุดยิ่งกว่าพระราชา ไม่มีใครทัดทาน อำนาจได้จนสามารถแต่งตั้งและถอดถอนพระราชาก็ได้ ทั้งนี้ก็เพราะถือว่าสันตะปาปา เป็นตัวแทนของพระเจ้าบนพื้นพิภพ ส่วนพระราชาเป็นเพียงผู้แทนคนในประเทศนั้นๆ เท่านั้น แต่แล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2060 ศาสนาคริสต์ก็เริ่มชะงักเพราะฝีมือของมาร์ติน ลูเธอร์ กล่าวคือมาร์ติน ลูเธอร์ เป็นนักบวชในศาสนาคริสต์ชาวเยอรมัน เกิดในประเทศเยอรมันนี เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2026 ที่เมือง ไอสเลเบน (Eisleben) นครแซกโซนี (Saxony) ครั้นถึง พ.ศ. 2048 ได้ออกบวช และในปี พ.ศ. 2054 ได้ไปเฝ้าสันตะปาปาที่วังวาติกัน ได้เห็นที่อยู่ ของพระหรูหราและมีความเป็นอยู่อย่างฟุ้งเฟ้อ ผิดสมณวิสัยทั้งซ้ำเติมด้วยความเศร้าใจที่ทราบว่า สันตะปาปาเลโอที่ 10 ปรารถนาจะสร้างโบสถ์หลังใหม่ให้ใหญ่กว่าและวิจิตรกว่าโบสถ์ที่เคยมีมา โดยได้ออกใบไถ่บาปขาย เพื่อหาเงินมาสร้างโบสถ์เซ็นต์ปีเตอร์หลังใหม่เมื่อ พ.ศ. 2058 ใครที่ ซื้อใบไถ่บาปแล้ว สามารถล้างบาปได้ทันทีมต้องมาล้างบาปกับพระ และยิ่งซื้อไว้มากก็ไถ่บาป ได้มาก หรือยังไม่มีบาปจะซื้อไว้ก่อนก็ได้ หากทำบาปต่อไปก็จะได้ไถ่บาปเช่นกัน มาร์ติน ลูเธอร์ 320 DOU ศ า ส น ศึ ก ษ า
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More