ข้อความต้นฉบับในหน้า
เสมอ ถ้าลูกหลานคนใดไม่ปฏิบัติให้ถูกต้องอาจจะถูกลงโทษต่าง ๆ นานา ดังนั้นการทำศาลปู่ตา
การทำซุ้ม การทำปิรามิด ตลอดจนพิธีกรรมต่าง ๆ ที่เซ่นไหว้ปู่ ย่า ตา ยาย ล้วนมีเหตุมาจาก
ความเชื่อในเรื่องผีและวิญญาณ จึงทำให้เกิดการสร้างสถานที่เฉพาะ หรือการหาอาหารมา
ทั้งนี้เพื่อให้วิญญาณเหล่านี้มาปกปักรักษาหรือดลบันดาลให้เกิดความสำเร็จในกิจการ
ต่าง ๆ การบูชาบรรพบุรุษจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการเซ่นไหว้และการทำพลีกรรม
เซ่นไหว้
อนึ่งในการเซ่นไหว้ผีบรรพบุรุษนี้อาจไหว้ด้วยเนื้อสัตว์ ข้าว ผลไม้ เหล้า ฯลฯ และใน
บางแห่งอาจนำมนุษย์มาฆ่าเพื่อเซ่นไหว้ดวงวิญญาณเหล่านี้ก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของ
ผู้ไหว้ และขึ้นอยู่กับความเข้มข้นตามแรงปรารถนาของผู้ไหว้
2.2 ศาสนาและความเชื่อของมนุษย์ที่นับถือศาสนาพื้นฐานดั้งเดิม
คุณลักษณะของศาสนาพื้นฐานดั้งเดิมทั้ง 9 ประการตามที่ได้กล่าวมาแล้วนี้จะปรากฏอยู่
ในความเชื่อของมนุษย์นับตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์แล้วสืบทอดกันต่อ ๆ มา ซึ่งสามารถ
ศึกษาได้จากความเชื่อของชนพื้นเมืองเผ่าต่างๆ ทั่วโลก ในที่นี้จะศึกษาเฉพาะความเชื่อของ
ชนพื้นเมืองในทวีปอเมริกาเหนือ และความเชื่อของชนพื้นเมืองในทวีปแอฟริกา เพราะความ
เชื่อของชนพื้นเมืองทั่ว ๆ ไปมีลักษณะคล้ายคลึงกัน และวัฒนธรรมความเชื่อของแต่ละพื้นที่
ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิศาสตร์ ทำให้เกิดความแตกต่างในส่วนย่อย แต่แกนหลักแห่งความเชื่อโดย
ทั่ว ๆ ไปยังคงมีลักษณะร่วมกัน ซึ่งเราจะศึกษากันในรายละเอียดต่อไป
2.2.1 ศาสนาและความเชื่อของมนุษย์นีแอนเดอรัล (Neanderthal)
การกำเนิดศาสนาดั้งเดิม เราสามารถสืบย้อนขึ้นไปถึงยุคของมนุษย์นีแอนเดอรัล (Nean-
derthal) ซึ่งมีชีวิตอยู่ในช่วงระหว่างประมาณ 10,000-25,000 ปี ก่อนคริสตกาล มนุษย์
กลุ่มนี้นิยมหาอาหารด้วยการล่าสัตว์และหาผลไม้ตามป่าเขา ในสมัยนี้ยังไม่มีการเขียนบันทึก
เป็นลายลักษณ์อักษร เราจึงไม่สามารถทราบรายละเอียดเกี่ยวกับศาสนาและความเชื่อของ
พวกเขา นอกจากอาศัยหลักฐานต่างๆ ทางโบราณคดีจากการขุดค้นพบกระดูกสัตว์และ
เครื่องมือต่าง ๆ ทำให้นักโบราณคดีบางคนสันนิษฐานว่า ในสมัยนั้นนิยมฝังอาหารและภาชนะ
ตลอดจนเครื่องมือและอาวุธต่างๆ ไปกับศพ เพื่อให้คนตายนำไปใช้หรือไม่ก็นำไปถวายแก่
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนนับถือ
นอกจากนี้นักโบราณคดียังพบกระดูกหมีในหลุมศพ มีการจัดวางกระดูกเหล่านั้นอย่าง
32 DOU ศาสนศึกษา