ข้อความต้นฉบับในหน้า
ต่อมาวันหนึ่ง เวลาเช้าตรู่ เสือโคร่งตัวหนึ่งเที่ยวแสวงหาอาหารได้กลิ่นพระนาง
ปิยาซึ่งประทับอยู่ในหลุมนั้นก็ขุดดินลงไปตามกลิ่นนั้น ฝ่ายพระนางปิยาทรงเห็นเสือโคร่งก็
ทรงร้องด้วยเสียงอันดัง เสือโคร่งตกใจก็หนีไป เสียงร้องของพระนางปิยาได้ยินไปถึงพระกรรณ
ของพระเจ้าราม พระเจ้ารามได้เสด็จไปเที่ยวค้นหา ครั้นทรงพบพระนางแล้วจึงตรัสถามทรง
ทราบความตลอดแล้ว จึงทรงแนะนำพระนางให้เสวยผลไม้ที่พระองค์เคยเสวย พระนางปิยาจึง
ทรงหายจากโรคเรื้อนนั้นในเวลาไม่นาน พระเจ้ารามและพระนางปิยาได้มีพระทัยปฏิพัทธ์รัก
ใคร่ซึ่งกันและกัน จึงได้สมสู่อยู่ด้วยกันที่ต้นไม้โกละนั้น
เวลาต่อมา บุรุษชาวเมืองพาราณสีได้เที่ยวไปในป่าพบพระเจ้าราม และพระเจ้าราม
ก็ทรงจำได้ ครั้นบุรุษชาวเมืองพาราณสีทูลถามทราบความแล้วจึงได้นำความนั้นไปกราบทูล
แด่กษัตริย์ซึ่งเป็นพระราชโอรสในพระเจ้าราม พระราชานั้นก็ทรงยกจตุรงคเสนาออกไปเชิญ
พระราชบิดาให้เสด็จกลับไปเสวยราชสมบัติดังเดิม พระเจ้ารามไม่เสด็จกลับ พระราชาผู้เป็น
พระราชโอรสทรงเห็นว่าพระบิดาไม่เสด็จกลับมาแล้ว จึงรับสั่งให้ตัดต้นโกละนั้นเสีย สร้าง
พระนครถวายแด่พระบิดาแล้วให้นามพระนครนั้นว่า “โกลิยะ” เพราะตัดไม้โกละนั้นเสียแล้ว
และตั้งพระนครในสถานที่นั้น และพระเจ้ารามได้ทรงตั้งวงศ์กษัตริย์ปกครองกันต่อมาชื่อ
“โกลิยวงศ์” เวลาต่อมาได้เปลี่ยนชื่อราชธานีเป็น “เทวทหะ” เจ้าชายและเจ้าหญิงในนคร
กบิลพัสดุ์และนครเทวทหะได้ทรงทำอาวาหมงคลวิวาหมงคลซึ่งกันและกันสืบมาโดยลำดับ
ความสัมพันธ์ของศากยวงศ์กับโกลิยวงศ์
กษัตริย์แห่งศากยวงศ์ได้ทรงครองกรุงกบิลพัสดุ์สืบเชื้อสายมาตามลำดับจนถึงพระเจ้า
ชัยเสนะ ซึ่งมีพระราชโอรสทรงพระนามว่า สีหหนุ และพระราชธิดาทรงพระนามว่า ยโสธรา
ฝ่ายกษัตริย์แห่งโกลิยวงศ์ได้ทรงเริ่มต้นตั้งแต่พระเจ้ารามกับเจ้าหญิงปิยาล่วงมาหลาย
รัชสมัยจนถึงกษัตริย์ผู้ครองกรุงเทวทหะทรงพระนามว่า อัญชนะ และพระกนิษฐภคินี ทรง
พระนามว่า กัญจนา หรือ กาญจนา
พระเจ้าสีหหนุได้ทรงอภิเษกสมรสกับพระนางกัญจนา มีพระราชโอรส 5 พระองค์ คือ
สุทโธทนะ สุกโกทนะ อมิโตทนะ โธโตทนะ และ ฆนิโตทนะ และมีพระราชธิดา 2 พระองค์
คือ ปมิตา และ อมิตา
พระเจ้าอัญชนะได้ทรงอภิเษกสมรสกับพระนางยโสธรา มีพระราชโอรส 2 พระองค์
คือ สุปปพุทธะ ทัณฑปาณิ และมีพระราชธิดา 2 พระองค์ คือ มายา หรือ สิริมหามายา และ
128 DOU ศ า ส น ศึ ก ษ า