การประหารชีวิตพระเยซู DF 404 ศาสนศึกษา หน้า 345
หน้าที่ 345 / 481

สรุปเนื้อหา

ในเหตุการณ์นี้ พระเยซูถูกจับกุมโดยทหารโรมันภายใต้การทรยศของยูดาห์อิสการิโอด ซึ่งได้มาตามนัดหมายเพื่อให้สัญญาณในการจับกุมพระเยซู หลังจากนั้นพระองค์ถูกนำไปสอบสวนที่บ้านมหาปุโรหิต โดยข้อกล่าวหาคือพระเยซูอ้างตัวเป็นพระเจ้าแผ่นดินองค์ใหม่ของยิว คณะกรรมการศาสนาเรียกพยานหลายคนมาซักถาม แต่พระเยซูได้สงบเงียบและยืนยันว่าเชื่อว่าตนเป็นลูกของพระเจ้า การพิจารณาคดีทำให้มีมติให้ประหารชีวิตพระเยซู แต่การดำเนินการต้องได้รับการอนุญาตจากผู้สำเร็จราชการโรมันก่อน ที่ประชุมเห็นว่าพระเยซูมีการสนับสนุนจากประชาชนที่ส่งผลให้เกิดความเกลียดชังต่อพระองค์จากผู้มีอำนาจ

หัวข้อประเด็น

-การจับกุมพระเยซู
-การทรยศของยูดาห์อิสการิโอด
-การสอบสวนโดยคณะกรรมการศาสนา
-คำพิพากษาของพระเยซู
-การส่งตัวให้โรมัน

ข้อความต้นฉบับในหน้า

เตือนให้สาวกตื่นเพื่อระวังภัย ทำอย่างนี้อยู่ถึง 3 ครั้ง สาวกก็ยังไม่ปฏิบัติตาม ก็พอดีปรากฏว่า มีคนถือไม้พลองเป็นอาวุธกรูกันเข้ามายังภูเขาที่พักพระเยซูและสาวก ขณะเดียวกัน ยูดาห์ อิสการิโอด สาวกผู้ทรยศได้ตรงเข้าจูบพระเยซู เป็นสัญญาณตามที่นัดหมายกันไว้ ทหารโรมัน ก็จับพระเยซูไป พระเยซูได้ตรัสแก่ทหารที่มาจับว่า จะต้องถือไม้พลองมาทำไม พระองค์มีมือ เปล่าไม่มีพิษภัยอะไร ถ้าอยากจับพระองค์จะจับเวลาอยู่ในโบสถ์หรืออยู่ที่ไหนก็ได้ 17. คณะกรรมการศาสนาสอบความผิด พระเยซูทรงเหลียวมองหาสาวกก็ไม่เจอสักคนเดียว คงจะกลัวถูกจับจึงหลบหนีกัน ไปหมด พระเยซูได้ถูกนำไปที่บ้านมหาปุโรหิต (สังฆราชยิว) ผู้เป็นประธานกรรมการ (Synodus) นั่นเองและคณะกรรมการก็ได้ทำการสอบสวนชำระความทันทีที่บ้านนั้น โดยเรียกคนหลายคน มาเป็นพยานพยานทุกคนก็ให้การปรักปรำพระเยซู โดยเฉพาะข้อที่ว่า พระเยซูตั้งตนเป็น พระเจ้าแผ่นดินองค์ใหม่ของยิว อ้างตนเป็นลูกของพระเจ้า เป็นเมสสิยาห์ พระเยซูไม่ตอบ แม้ประธานฯ จะถามอะไรพระเยซูก็ทรงนิ่ง แล้วในที่สุดประธานฯก็ถามเป็นคำถามสุดท้ายว่า พระเยซูเชื่อพระองค์ว่าเป็นลูกพระเจ้าและเป็นเมสสิอาห์จริงหรือ พระเยซูรับว่า จริงในข้อนี้ ประธานฯ กล่าวในที่ประชุมว่า ถ้าเช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องซักถามอะไรอีก แล้วถามความเห็นที่ ประชุม ที่ประชุมมีมติให้ลงโทษประหารชีวิตพระเยซู ในขณะที่พระเยซูนั่งอยู่นั้น มีหลายคนเข้ามาทำร้ายตบตี ถ่มน้ำลายรด เอาผ้าปิดตา พระองค์แล้วกลั่นแกล้งพระเยซูให้ได้รับความเจ็บปวดทุกข์ทรมาน แต่พระเยซูก็นิ่งเฉย ไม่ขัดขืน ตอบโต้ 18. ต้องคำพิพากษาประหารชีวิต เป็นอันว่า สภาการศาสนาได้พิพากษาประหารชีวิตพระเยซู แต่การที่จะปฏิบัติตาม คำพิพากษาอุกฤษฏ์โทษอย่างนั้น จะต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้สำเร็จราชการโรมันก่อน จึง จะดำเนินการได้ ฉะนั้นพอสว่างพระเยซูก็ถูกนำตัวไปให้ผู้สำเร็จราชการโรมัน โดยมีข้อหาว่า พระเยซูจะตั้งตนเป็นกษัตริย์ยิว ซึ่งเป็นการกบฏต่อซีซาร์ ผู้สำเร็จราชการโรมัน ถามพระเยซูว่า ท่านได้ตั้งตนเป็นพระเจ้าแผ่นดินผิวจริงหรือ ? พระเยซูตรัสตอบว่า “อาณาจักรของข้าพเจ้ามิได้อยู่ในโลกนี้” ผู้สำเร็จราชการโรมันพยายาม ถามหลายอย่างก็ไม่สามารถจับได้ว่า พระเยซูทำผิดในข้อหาใด แต่หน้าที่ผู้สำเร็จราชการเป็น หน้าที่การเมืองและเห็นว่าชาวยิวเป็นอันมากไม่ชอบพระเยซู มีแต่คนเกลียดชังและเป็นศัตรูต่อ 330 DOU ศ า ส น ศึ ก ษ า
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More