ข้อความต้นฉบับในหน้า
สัตว์ที่ใช้ในการทำอะกีเกาะฮฺนั้นสำหรับเด็กผู้ชายให้เชือดแพะ 2 ตัว แพะนั้นควรมีรูปร่าง
ลักษณะที่คล้ายคลึงกันทั้ง 2 ตัวและมีอายุรุ่นเดียวกันด้วย ถ้าเป็นเด็กหญิงให้เชือดแพะ 1 ตัว
เนื้อสัตว์ที่เชือดนี้เพื่อเป็นการขอบคุณอัลลอฮ์ที่ประทานทารกมาให้และเพื่อขอพรให้พระองค์
ได้คุ้มครองรักษาทารกนี้ เนื้อสัตว์ที่ถูกเชือดจะแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ไว้รับประทานเอง 1 ส่วน ให้
ญาติพี่น้อง 1 ส่วน และบริจาคให้คนยากจน 1 ส่วน
13.9.12 พิธีการเชือดกุรบั่น คือการเชือดสัตว์เป็นพลีเพื่อแจกจ่ายแก่ผู้ยากไร้และมิตร
สหาย เพื่อนำมาฉลองในวันอีดิลอัฎฮาหรือวันอีดใหญ่ โดยเชือดในตอนสายหลังจากเสร็จการ
ละหมาด สัตว์ที่ใช้ทำกุรบั่น ได้แก่ อูฐ วัว แพะ แกะ เพื่อแสดงความภักดีต่ออัลลอฮ์ กะมารุล
ชุก” ได้กล่าวว่าสัตว์ที่ทำกุรบั่นต้องมีอายุครบตามเกณฑ์จึงจะถือว่าแข็งแรง กล่าวคือ อูฐจะ
ต้องมีอายุ 5 ปีขึ้นไป วัวและควายมีอายุ 2 ปีขึ้นไป แพะธรรมดาอายุ 2 ปีขึ้นไป แกะอายุครบ
1 ปี หรือแกะที่ฟันของมันหลุดร่วงไปหลังจาก 6 เดือน ถึงแม้มีอายุครบ 1 ปี ที่ใช้ได้ บรรดา
สัตว์ที่ทำกุรบั่นนั้นที่ดีที่สุด คือ อูฐ รองลงมาคือ วัว จากนั้นคือแกะและแพะ
จำนวนสัตว์ในการทำกุรบั่นที่น้อยที่สุด คือ แพะ 1 ตัว หรือ แกะ 1 ตัว สำหรับ 1 คน แต่
ถ้าอูฐ 1 ตัว วัวหรือควาย 1 ตัว สำหรับ 7 คน และสัตว์ที่จะใช้ทำกุรบั่นนั้นต้องสมบูรณ์แข็งแรง
ไม่พิการตาบอด ไม่ตาเจ็บจนปิดตา ยกเว้นตามัวหรือมองไม่เห็นเฉพาะกลางคืน ขาจะต้องไม่
เป๋หรือเก หูไม่แหว่งหรือฉีกขาด หางไม่กุด ยกเว้นเป็นมาแต่กำเนิด ไม่เป็นโรคผิวหนัง และจะ
ต้องไม่ตั้งท้องหรือเพิ่งคลอดลูก
สำหรับสีของสัตว์ที่ใช้ทำกุรบั่นนั้นที่นิยมและที่ยกย่องกันว่าดีที่สุดคือสีขาวสีค่อนข้างเหลือง
สีเทาแกมแดงสลับสีขาวปนดำและสีดำ
กุศลที่เกิดจากการทำกุรบั่นตามทัศนะของอิสลาม คือ บุญที่จะทำให้สะดวกง่ายดายต่อ
การข้ามสะพานในวัรกิยามะฮฺ (หมายถึงวันที่ฟื้นจากความตายไปสู่ปรโลก) ยิ่งสัตว์ดีมากและ
ประเสริฐมากเท่าใดยิ่งทำให้เห็นถึงความภักดีต่ออัลลอฮ์มากเท่านั้น แต่ทั้งหมดนี้จะต้อง
กระทำให้ถูกต้องตามบัญญัติของศาสนาจะเชือดก่อนละหมาดในวันอีดิลอัฎฮาไม่ได้ มิฉะนั้นจะ
เป็นการเชือดเพื่อตนเอง ดังนั้นเนื้อที่ได้จากการทำกุรบั่นจึงไม่บริโภคแต่ผู้เดียว แต่แจกจ่าย
เป็นทานแก่คนยากจนรวมทั้งมิตรสหายและเก็บไว้เพื่อตนเองเพียงนิดเดียวเท่านั้นเพื่อเป็น
สิริมงคลในการทำกุรบั่น
เล่มเดียวกัน, หน้า 41-42.
ศ า ส น า อ ส ล า ม
DOU 427