ความสำคัญของการโพกศีรษะและประเพณีครัวทานในศาสนาซิกข์ DF 404 ศาสนศึกษา หน้า 205
หน้าที่ 205 / 481

สรุปเนื้อหา

การโพกศีรษะในชาวซิกข์มีความสำคัญมาก ไม่เพียงแต่เป็นประเพณีการแต่งกาย แต่ยังแสดงถึงความรู้สึกของศาสนา การสืบทอดตำแหน่ง และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในชุมชน นอกจากนี้พิธีครัวทานยังเป็นการสร้างสังคมที่เท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติหรือศาสนาใดก็ตาม ทุกคนจะได้รับอาหารร่วมกันและช่วยกันทำอาหารเพื่อสนับสนุนชุมชน ความเชื่อเหล่านี้ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นตั้งแต่สมัยคุรุนานัก ปัจจุบันจึงเป็นหลักการสำคัญในชีวิตของชาวซิกข์เพื่อสร้างความสามัคคีและภราดรภาพ

หัวข้อประเด็น

-การโพกศีรษะในศาสนาซิกข์
-ความหมายและพิธีการของการโพกศีรษะ
-ประเพณีครัวทานในศาสนาซิกข์
-การสร้างความเท่าเทียมในสังคม
-บทบาทของศาสนาในการสร้างภราดรภาพ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

โพกไว้ภายนอกอีกชั้นหนึ่ง ส่วนสีนั้นไม่มีการจำกัด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความนิยม แต่ชาวซิกข์ใน เมืองไทยส่วนมากนิยมสีขาว และสีฟ้าสดที่เรียกว่า ฟ้าอมน้ำเงิน ในหมู่ชาวซิกข์การโพกผ้ามิได้มีความหมายเพียงแค่ประเพณีในการแต่งกายเท่านั้น แต่เป็นเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความสืบเนื่องทางศาสนา เช่น ถ้าผู้นำของครอบครัวเสียชีวิต บุตรคนโตจะได้รับการโพกศรีษะต่อหน้าชุมชนนั้นๆ เพื่อประกาศว่าเขาจะได้เป็นผู้สืบทอด แทนบิดาต่อไป พิธีโพกศรีษะเริ่มเป็นครั้งแรกเมื่อเด็กโตเป็นหนุ่ม และผ้าโพกศรีษะนี้จะถูกถอดออก ต่อเมื่อเป็นการลงโทษหรือเป็นการลบหลู่เกียรติ ฉะนั้นเมื่อมีผู้ปิดผ้าโพกศรีษะผู้อื่นออก ผู้นั้น จะถูกลงโทษไม่ให้เข้าร่วมในพิธีต่าง ๆ จนกว่าจะขอขมาโทษ และรับโทษตามที่ได้บัญญัติไว้ ชาวซิกข์จะต่อสู้เพื่อสิทธิในการโพกศรีษะในประเทศต่าง ๆ การต่อสู้ครั้งแรกเกิดขึ้นในอังกฤษ ดังนั้นการโพกศรีษะจึงหมายถึงวิถีชีวิตและจิตใจของชาวซิกข์ ที่มีต่อศาสนาอย่างมั่นคง 6.7.5 ประเพณีครัวทาน (Free Kitchen) ประเพณีนี้เป็นส่วนหนึ่งในการปฏิบัติทางศาสนาที่ชาวซิกข์เรียกว่า “ปันกัน” (Pangat) หรือ “ลังการ์” (Langar) ซึ่งหมายถึง ครัวทานหรือครัวสาธารณะที่เปิดให้คนทั่วไป ได้รับประทานอาหารร่วมกันไม่ว่าจะมีวรรณะใด เพศใด หรือชาติใดก็ตาม ทุกคนย่อมได้รับ การปฏิบัติที่เหมือนและเท่าเทียมกัน ประเพณีทางศาสนานี้เริ่มมาตั้งแต่สมัยของคุรุนานักที่ เป็นปฐมศาสนา และทำสืบต่อกันมาในสมัยของคุรุศาสดาอังฆฏเทพ คุรุศาสดาอมรทาส จน กระทั่งถึงปัจจุบันนี้ การรับประทานอาหารในโรงครัวสาธารณะนี้ถือว่าเป็นการสร้างภราดรภาพร่วมกัน อันเป็นหลักสำคัญในศาสนา บุคคลที่เข้ามาในโรงครัวนี้จะต้องนั่งบนพื้นที่จัดไว้เรียงเป็นแถว ในระดับเสมอกัน ไม่มีข้า ไม่มีนาย ไม่มีความแตกต่างทางเชื้อชาติ ศาสนา ผู้ศรัทธาในศาสนา ซิกข์จะช่วยกันทำอาหารและบริการรับใช้ผู้มารับประทานทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน โรงครัวนี้ ชาวซิกข์จะช่วยกันนำอาหารมาให้หรืออาจให้เป็นเงินทอง เพื่อจัดซื้ออาหารต่าง ๆ ให้มีอยู่เสมอ มิได้ขาด 190 DOU ศาสนศึกษา
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More