ข้อความต้นฉบับในหน้า
7.7.5 พิธีกราบไหว้บูชาวิญญาณของบรรพบุรุษ ชาวจีนแต่ไหนแต่ไรมาไม่เฉพาะ
ศาสนิกชนเต๋าเท่านั้น นิยมกราบไหว้บูชาวิญญาณของบรรพบุรุษอย่างลึกซึ้ง พวกเขามีความ
เชื่ออย่างมั่นคงว่า สิ่งทั้งหลายได้มีวิญญาณสิงสถิตอยู่ทั้งหมด และเชื่อว่าถ้าลูกหลานมีความ
กตัญญูกราบไหว้วิญญาณบรรพบุรุษแล้ว วิญญาณเหล่านั้นจะต้องดูแลคุ้มครองลูก ๆ หลาน ๆ
ผู้ยังมีชีวิตอยู่ให้มีความเป็นอยู่ อย่างร่มเย็นเป็นสุข พิธีปฏิบัติก็คล้าย ๆ กับที่ชาวจีนเมืองไทย
ประพฤติปฏิบัติกันในแต่ละปีคือจะพากันไปยังฮวงซุ้ยไปทำความสะอาดและตกแต่งฮวงซุ้ยจุดธูป
เซ่นสังเวยดวงวิญญาณด้วยเหล้า และอาหาร อีกทั้งเผากระดาษเงินกระดาษทองส่งไปให้ผู้ตาย
ด้วย
7.8 นิกายในศาสนา
ศาสนาเต๋ามีอยู่หลายนิกาย แต่เมื่อว่าถึงนิกายใหญ่แล้วก็มี 2 นิกาย คือ นิกายเชิง-อิ และ
นิกาย ชวน-เซน นิกายเชิง-อิ เป็นนิกายฝ่ายใต้ เพราะเจริญอยู่แถบทางใต้ของแม่น้ำแยงซี นิกาย
นี้มุ่งไปในทางอิทธิฤทธิ์ของอาจารย์สวรรค์ นิกายนี้จึงมีอีกชื่อหนึ่งว่านิกายเทียนจื้อ เชื่อกันว่าจาง
เต๋า หลิง เป็นอาจารย์สวรรค์คนแรก มีดาบศักดิ์สิทธิ์สามารถฆ่าปีศาจ แม้อยู่ไกลถึง 1,000 ไมล์
ได้ นิกายนี้เชื่อเรื่องโชคลางอภินิหารและคาถาอาคม จึงมีคาถาอาคมมากมาย เช่น คาถาขอฝน
คาถากันฝน คาถากันผี เป็นต้น นอกจากนี้ยังถือการเข้าทรงเป็นสำคัญอีกด้วย นักบวชของ
นิกายนี้มีความเป็นอยู่แบบชาวบ้านทั่วไป และมีครอบครัวได้
ส่วนนิกายชวน-เชน เป็นนิกายฝ่ายเหนือ เพราะเจริญอยู่แถบทางเหนือแม่น้ำแยงซี เป็น
นิกายที่มุ่งดำเนินตามคำสอนเต๋า จึงมีปฏิปทาดำเนินชีวิตให้กลมกลืนกับธรรมชาติ รักสงบ
เป็นอยู่อย่างเรียบง่ายศาสนิกจำนวนไม่น้อยจะสละบ้านออกไปอยู่วัด รับประทานอาหารมังสวิรัติ
ทั้งจะอดอาหารในบางโอกาส ส่วนนักพรตจะแต่งงานไม่ได้ ดื่มน้ำเมาไม่ได้ นิกายนี้มีความ
โน้มเอียงที่จะรวมทั้ง 3 ศาสนา คือศาสนาเต๋า ศาสนาขงจื้อ และศาสนาพุทธเข้าเป็นอันเดียวกัน
7.9 สัญลักษณ์ของศาสนา
สัญลักษณ์โดยตรงของศาสนาเต๋าก็คือ รูปเล่าจื้อขี่ควาย อันหมายถึง การเดินทางไปยังที่
ต่างๆ ของเล่าจื้อมักจะใช้ควายเป็นพาหนะ แม้กระทั่งการเดินทางครั้งสุดท้ายไปยังพรมแดน
ของจีนต่อกับทิเบตทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ก็ใช้ควายเป็นพาหนะ และก็หายไปทั้งเล่าจื้อและ
ศาสนาเต๋า DOU 211