ข้อความต้นฉบับในหน้า
มั่นใจในองค์อัลลอฮ์ และมีการปฏิบัติสนองคำบัญชาของพระองค์อย่างครบถ้วนและเคร่งครัด
เป็นนิจศีลแล้ว จิตใจก็จะแนบเนื่องกับพระองค์ กิเลสตัณหาที่แทรกซ้อนในอารมณ์ก็จะถูก
ปลดเปลื้องออกจนหมดสิ้น
หลักสามประการดังที่กล่าวมานี้ เป็นหลักธรรมขั้นพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับมุสลิม
ทุกคนต้องปฏิบัติและมีอยู่ในดวงจิตของตน ซึ่งเป็นหน้าที่เฉพาะตัวของมุสลิมแต่ละคน เมื่อ
ปฏิบัติหลักสามประการนี้ครบถ้วนแล้ว หน้าที่อันดับต่อมาคือ การรับหลักธรรมที่เกี่ยวข้องกับ
บุคคลอื่นหรือที่เรียกว่า “หลักธรรมทางสังคม” ซึ่งสังคมในที่นี้หมายถึง บุคคลอื่นที่ไม่ใช่ตัว
เองโดยกำหนดหลักกว้าง ๆ ว่า “บุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้อื่นโดยฐานะใดก็จะต้องรับหลักธรรม
เพื่อปฏิบัติต่อผู้นั้นตามฐานะดังกล่าว” เหตุนี้จึงมีหลักธรรมเกี่ยวกับการปฏิบัติตนต่อบิดามารดา
ต่อสามี ต่อบุตรหลาน ต่อเพื่อนบ้าน ต่อคู่สัญญา ต่อลูกค้า ต่อผู้ปกครอง ต่อประเทศชาติ เป็นต้น
คำสอนของศาสนาอิสลามจึงไม่ได้หมายความแต่เฉพาะการเฝ้าบำเพ็ญภาวนาต่อพระเจ้าอย่าง
เดียว หากจะต้องปฏิบัติตนตามภาระหน้าที่ต่าง ๆ ตามฐานะของตนอย่างเหมาะสมและอย่าง
รับผิดชอบอีกด้วย ภาระหน้าที่ต่อพระเจ้าและสังคมนั้นแยกกันไม่ออก จะต้องปฏิบัติควบคู่กันไป
จะทิ้งอย่างใดอย่างหนึ่งก็ไม่ได้ แม้แต่การบัญญัติถึงหน้าที่ดังกล่าว คัมภีร์อัลกุรอานก็นำมารวม
กันไว้ในประโยคเดียวกัน มิได้แยกให้เห็นถึงความลดหลั่นทางความสำคัญ ดังปรากฏในพระ
คัมภีร์ว่า “พึงนมัสการต่อพระเจ้า จึงทำดีต่อพ่อแม่ ต่อวงศ์ญาติ ต่อเด็กกำพร้า ต่อคนอนาถา
ต่อเพื่อนบ้านทั้งไกลและใกล้ ต่อเพื่อนสนิท และต่อคนเดินทาง”
จากตัวอย่างที่ยกมา แสดงให้เห็นว่า หน้าที่ต่อพระเจ้าและต่อสังคมเป็นหน้าที่ที่
ต้องปฏิบัติควบคู่กันไป จะแยกออกจากกันไม่ได้ และหน้าที่ทั้งสองนั้นต่างเกื้อกูลซึ่งกันและกัน
ภารกิจทางสังคมที่ศาสนาอิสลามได้กำหนดไว้นั้นเป็นเจตนารมณ์ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจาก
ศาสดาและถือว่าความดีของบุคคลจะลดหลั่นไปตามการบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม ศาสนา
อิสลามไม่สอนให้บุคคลเป็นคนเห็นแก่ตัว ดังโอวาทของศาสดามุฮัมมัดว่า “คนที่ดีที่สุดคือคน
ที่มีชีวิตอยู่เพื่อบำเพ็ญประโยชน์แก่ผู้อื่นมากที่สุด คนใดคนหนึ่งจะยังไม่ถือว่ามีศรัทธาจนกว่า
เขาจะรักผู้อื่นเท่ากับที่เขารักตนเอง”
ศาสนาอิสลามไม่สอนให้คนยอมตนเป็นทาสสิ่งของต่างๆไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นวัตถุธรรม
เช่น ทรัพย์สมบัติหรือนามธรรม เช่น ชื่อเสียงเกียรติยศ เพราะการยอมตนเป็นทาสของสิ่งเหล่านี้
จะทำให้ชีวิตวนเวียนอยู่ในโลกนี้ ทำให้วิญญาณหมดอิสรภาพที่จะทะยานไปสู่อาณาจักรแห่ง
พระเจ้า ดังคำสอนว่า “โลกนี้เป็นคุกสำหรับผู้ศรัทธาและเป็นสวรรค์สำหรับผู้ดื้อรั้น”
ศาสนาอิสลาม DOU 415